ปรีวิว ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันพุธที่ 22 สิงหาคม 2555

เชลซี   -   เร้ดดิ้ง

สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์

        สิงโตน้ำเงินคราม ต้องเลื่อนโปรแกรมพรีเมียร์ลีกนัดที่ 3 ของฤดูกาลที่เปิดบ้านพบ เร้ดดิ้ง ทีมน้องใหม่ จากวันเสาร์ที่ 1 กันยายน ขึ้นมาเป็นวันพุธที่ 22 สิงหาคม แทน เพราะสุดสัปดาห์ดังกล่าว เชลซี ในฐานะแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ต้องลงเตะถ้วย ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ พบกับ แอตเลติโก มาดริด แชมป์ยูโรปา ลีก วันศุกร์ที่ 31 สิงหาคม

        โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ กุนซือ สิงห์บลูส์ อาจปรับทีมเล็กน้อย เพราะมีโปรแกรมสุดสัปดาห์นี้หนักกว่ารออยู่ นั่นคือการเปิดบ้านรับมือ นิวคาสเซิ่ล ทำให้ตัวหลักบางรายอาจได้พักในเกมนี้เพื่อความสด

        จากเกมที่บุกชนะ วีแกน 2-0 ในนัดเปิดฤดูกาลเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา รามิเรส กองกลางจอมลุยชาวบราซิล เกิดป่วยกระทันหัน ทำให้ไม่มีชื่อในเกมดังกล่าว และ ไรอัน เบอร์ทรานด์ แบ็กซ้ายดาวรุ่ง ได้รับโอกาสถูกดันขึ้นไปเล่นเกมรุกริมเส้นแทน ซึ่งดูแล้ว ดิ มัตเตโอ คงไม่เสี่ยงใช้งาน รามิเรส เพราะต้องการให้ฟิตทันเกมกับ นิวคาสเซิ่ล มากกว่า

        บรรดาตัวสำรองจากนัดแรกอย่าง แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์, แกรี่ เคฮิลล์, ไมเคิ่ล เอสเซียง, ราอูล เมยเรเลส รวมถึงมิดฟิลด์คนใหม่ ออสการ์ มีโอกาสลงตัวจริงทั้งหมด ขณะที่ มาร์โก มาริน มีปัญหาเจ็บเอ็นหลังหัวเข่า ยังพลาดเกมอย่างเป็นทางการต่อไป

        การจัดทัพ 4-2-3-1 ปีเตอร์ เช็ก ลงเฝ้าเสา แผงหลัง บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, แกรี่ เคฮิลล์, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล แดนกลาง จอห์น โอบี มิเกล กับ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ทำหน้าที่เป็นตัวตัดเกม แนวรุกวาง แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์, ราอูล เมยเรเลส, เอแดน อาซาร์ และหน้าเป้าเป็น เฟร์นานโด ตอร์เรส

        ทางฝั่ง เดอะ รอยัลส์ น้องใหม่พรีเมียร์ลีก ที่เลื่อนชั้นขึ้นมาในฐานะแชมป์ลีกแชมเปี้ยนชิพ ประเดิมฤดูกาลใหม่ รอดตายในนาทีสุดท้าย ตามตีเสมอ สโต๊ค ซิตี้ ในบ้านตัวเอง 1-1 จากจุดโทษของ อดัม เลอ ฟอนเดร

        ไบรอัน แม็คเดอร์ม็อตต์ กุนซือของทีม ยังพลาดใช้งาน เจม คารากัน มิดฟิลด์ตุรกี ที่ยังไม่ผ่านการทดสอบความฟิต หลังขาหักพักไปนานหลายเดือน ขณะที่ เจสัน โรเบิร์ตส์ กองหน้าร่างใหญ่ ที่ติดโทษแบน 2 นัด ค้างมาจากฤดูกาลที่แล้ว ยังเหลือโทษอีกหนึ่งนัด

        อย่างไรก็ตาม ที่จะกลับคืนสนามมี จิมมี่ เกเบ้ ปีกตัวเก่ง หายเจ็บเอ็นหลังหัวเข่ากลับมาแล้ว เช่นเดียวกับ สจ๊วร์ต เทย์เลอร์ นายทวารที่เพิ่งเซ็นสัญญามาร่วมทัพ พร้อมมีชื่อเป็นตัวสำรองอยู่ในทีมแล้ว

        ระบบการเล่น 4-4-2 อดัม เฟเดริชี่ เป็นประตู แผงหลัง คริส กันเทอร์, อเล็กซ์ เพียร์ซ, กัสปาร์ส กอร์คส์, เอียน ฮาร์ท กองกลางมี มิเคเล่ เลเกิร์ตวู้ด, แดนนี่ กัทธรี่, โจบี แม็คอนัฟฟ์, ฮัล ร็อบสัน-คานู คู่หน้า อดัม เลอ ฟอนเดร จับคู่กับ พาเวล โพเกรบเนียค

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

        เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก - บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, แกรี่ เคฮิลล์, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล - จอห์น โอบี มิเกล, แฟร้งค์ แลมพาร์ด - แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์, ราอูล เมยเรเลส, เอแดน อาซาร์ - เฟร์นานโด ตอร์เรส

        เร้ดดิ้ง : อดัม เฟเดริชี่ - คริส กันเทอร์, อเล็กซ์ เพียร์ซ, กัสปาร์ส กอร์คส์, เอียน ฮาร์ท - มิเคเล่ เลเกิร์ตวู้ด, แดนนี่ กัทธรี่, โจบี แม็คอนัฟฟ์, ฮัล ร็อบสัน-คานู - อดัม เลอ ฟอนเดร, พาเวล โพเกรบเนียค

        ผู้ตัดสิน : ลี เมสัน

สิงห์บลูส์สถิติข่มเจอเดอะรอยัลส์

        จากสถิติเก่าๆ ที่พบกันมาระหว่าง เชลซี กับ เร้ดดิ้ง ปรากฏว่าทั้งสองทีมเพิ่งพบกันมาในศึกพรีเมียร์ลีกเพียง 2 ฤดูกาลเท่านั้น คือซีซั่น 2006-07 กับ 2007-08 ซึ่ง สิงโตน้ำเงินคราม ไม่เคยเป็นฝ่ายพ่ายแพ้เลย

        ฤดูกาล 2006-07 เชลซี บุกชนะ 1-0 ก่อนจะเสียท่าเสมอที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ 2-2 ขณะที่ซีซั่น 2007-08 สิงห์บลูส์ บุกชนะก่อนเหมือนเดิม 2-1 และกลับมาเฉือนชนะในบ้านอีก 1-0 อย่างไรก็ตาม แม้ เชลซี จะไม่แพ้เลยตลอด 4 นัด แต่สกอร์ก็คู่คี่สูสี และรูปเกมของ เร้ดดิ้ง ก็ไม่ได้ตกเป็นรองมากนัก

        ครั้งสุดท้ายที่ เร้ดดิ้ง เอาชนะ เชลซี คือเกมลีก คัพ เมื่อปี 1987 แต่ถ้าเป็นเกมลีก ต้องย้อนกลับไปในปี 1930 เจอกันในศึกดิวิชั่น 2 ซึ่งเป็นชัยชนะในบ้าน เร้ดดิ้ง ทั้งสองนัด