"ฮีโร่โอลิมปิก" สมรักษ์ ท.เทพสุทิน ประกาศท้า "ดำ ดอทคอม" บัวขาว ป.ประมุข ขึ้นพิสูจน์ฝีมือด้วย พร้อมที่จะมีเดิมพันให้กินหลายล้านบาท เป็นการสร้างสีสันให้กับวงการมวย หากทีมงานบัวขาวสนใจติดต่อได้ตลอดเวลา ทางด้าน "ผู้พันยอด" ยอดวันเผด็จ ไก่ย่างห้าดาว แอ่นอกยอมรับความพ่ายแพ้สภาพร่างกายเป็นรองคิดได้ทำไม่ได้ พร้อมทั้งฝากขอบคุณแฟนมวยที่ให้การสนับสนุน และส่งแรงใจเชียร์ตนด้วยดีตลอดมา

        ผ่านพ้นกันไปกับศึกวันมิตรชัยมหากุศล เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 ตุลาคม 2555 ที่ผ่านมา ณ เวทีมวยราชดำเนิน ปรากฏว่าแฟนมวยให้ความสนใจเข้ามาชมกันอย่างล้นหลามทีเดียวเป็นประวัติศาสตร์ ของวงการมวย และเวทีราชดำเนิน ที่แฟนมวยล้นทะลักจนต้องปิดห้องตั๋วในชั้นที่ 2-3 ตั้งแต่เวลา 1 ทุ่มอย่างไม่เคยมีมาก่อนในระยะเวลากว่า 30 ปี โดยควันหลงของศึกวันมิตรชัยมีดังนี้

 
        หลังจากที่ประสบความสำเร็จด้วยการเอาชนะทีเคโอ (แตก) ยอดวันเผด็จ ไก่ย่างห้าดาว คว้าเดิมพัน 5.7 ล้านบาท มาครอง ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 ต.ค. ที่ผ่านมา สมรักษ์ ท.เทพสุทิน ได้เดินทางมาร่วมงานแถลงข่าวมวยรอบปูนเสือที่สโมสรกองทัพบก ถ.วิภาวดีรังสิต พร้อมทั้งเปิดเผยว่า สภาพร่างกายของตนเองนั้นยังดีอยู่ ยังสามารถขึ้นชกได้อีกแน่

 
        โดยเฉพาะไฟต์ต่อไปนั้น ต้องการที่จะขึ้นพิสูจน์ฝีมือกับ "ดำ ดอทคอม" บัวขาว ป.ประมุข มากที่สุด พร้อมที่จะมีเดิมพันให้กินหลายล้านบาทด้วย หากทางบัวขาวต้องการที่จะขึ้นชกกับตนเองจริงๆ ในพิกัด 70 กก. ขอให้ทีมงานของบัวขาวติดต่อมาได้เลย ไม่ใช่เป็นการออกข่าวโปรโมตแต่อย่างใด พร้อมที่จะขึ้นชกตามกติกามวยไทยทุกอย่าง มั่นใจหากมีโอกาสได้ชกกันจริง ต้องเป็นฝ่ายเอาชนะบัวขาวได้แน่นอน

 
        ในส่วนของ เข้ม ศิษย์สองพี่น้อง ที่มีข่าวว่าจะเป็นคู่ชกของสมรักษ์ในไฟต์ต่อไปนั้น ทางสมรักษ์ได้เปิดเผยว่าตนเองรู้ตัวดีว่าสภาพร่างกายของตนเองในระยะนี้ ยังไม่สามารถที่จะขึ้นชกกับเข้มได้ เนื่องจากสภาพร่างกายความสดความแกร่งนั้นยังเป็นรอง ขอขึ้นชกอุ่นเครื่องอีกสักครั้งหรือ 2 ครั้งก่อน

 
        เมื่อถึงเวลานั้นพร้อมที่จะชกกับเข้มแน่นอนไม่มีปัญหาแต่ อย่างใด ซึ่งตนเองมองว่า เข้ม นั้นเป็นนักมวยที่เก่งกว่าบัวขาวเสียอีก หากเจอเข้มระยะนี้ต้องขอคิดดูก่อน แต่หากเป็นบัวขาวพร้อมเจอกทันที รับรองว่าจะไม่สร้างความผิดหวังให้กับแฟนมวยแน่ ขอเพียงได้ชกกันจริงๆเท่านั้น

 
        สมรักษ์ ยังได้เปิดเผยต่อไปอีกว่า สำหรับบัวขาวนั้นตนมองว่าเป็นนักมวยที่ไม่เก่งคู่ต่อสู้ที่ผ่านๆ มานั้นก็เจอแต่ฝรั่งที่ไม่เก่งเท่าไหร่ ผ่านการชกมวยไทยมาไม่กี่ครั้งเท่านั้น แต่กับตนนั้นของจริงผ่านการชกมาอย่างโชกโชนสภาพร่างกายช่วงนี้ของตนก็ถือว่า โอเค

 
        ตนเองไม่เคยมองว่า บัวขาว เป็นนักมวยที่เก่งเลย สมัยชกมวยไทย แฟนมวยก็รู้กันดีว่า บัวขาวเป็นอย่างไร ฝีมืออยู่ในระดับไหน หากจะเปรียบเทียบกับตนนั้นเปรียบกันไม่ได้ จึงอยากที่จะพิสูจน์ฝีมือกับบัวขาว หากผ่านตนได้ ก็จะยอมรับว่า บัวขาว เก่งจริงก็ต้องฝากไปทางทีมงานโปรโมเตอร์ช่วยประกบให้ตนได้ขึ้นชกกับบัวขาว ด้วย ขอยืนยันอีกครั้งจะมีเดิมพันให้กินอย่างไม่อั้นแน่นอน

 
        นอกจากนี้ สมรักษ์ ยังได้เผยการชกในไฟต์กับยอดวันเผด็จ ที่ผ่านมานั้น ตนเองยอมรับว่าไม่อยากที่จะชกด้วยแต่อย่างไรก็ดี เมื่อโดนทางผู้พันยอดนั้นร้องท้ามาจึงมีความจำเป็นต้องชกด้วย ถือว่าเป็นการสร้างกระแสของแฟนมวย เป็นการสร้างประวัติศาสตร์ จึงอยากที่จะขอบคุณแฟนมวยที่เข้ามาชมมาเชียร์การชกของตนกับยอดวันเผด็จ ในไฟต์นี้ ทำให้ประสบความสำเร็จด้วยดี

 
        ตนเองหวังว่าการชกในไฟต์ต่อๆ ไปของตนนั้น แฟนมวยก็น่าที่จะให้ความสนใจเข้ามาชมอีกอย่างล้นหลามแน่ หากมีคู่ชกที่เหมาะสมตนพร้อมที่จะขึ้นชกโชว์ฝีมือให้แฟนมวยได้ชมกันอีกครั้ง แน่นอน

 
        ส่วนทางด้าน "ผู้พันยอด" ยอดวันเผด็จ ไก่ย่างห้าดาว นั้นได้เปิดเผยว่าการชกในไฟต์นี้ตนเองมีการเตรียมตัวฟิตซ้อมมาเป็นอย่างดี ทว่าเพียงยกแรกก็รู้แล้วว่าสู้ทางสมรักษ์ไม่ได้ความแข็งแกร่งเมื่อปะทะกันไป แล้วตนเป็นรองอย่างเห็นได้ชัด และยอมรับว่ารู้สึกเจ็บตัวเป็นอย่างมาก เจ็บขาตั้งแต่ยกแรก เมื่อยกที่ 3 มาโดนศอกแตก ตนจึงได้บอกกับแพทย์สนามว่าให้ยุติการชกไปเลย

 
        ยอมรับว่าสู้สมรักษ์ไม่ได้จริงๆ และต้องขอโทษพรรคพวกเพื่อนฝูงแฟนมวยที่ให้การสนับสนุน และเข้ามาเชียร์ตนมากเหลือเกิน แต่ตนเองก็ทำไม่สำเร็จต้องสร้างความผิดหวังให้กับแฟนมวยในการชกไฟต์นี้ซ้อม มาดี แต่ชกจริงๆ แล้วคิดได้ แต่ทำไม่ได้ ยอมรับว่าสภาพแต่โดยดี และคงจะไม่มีการขึ้นชกย้อนยุคกับใครอีกแล้ว

 
        นอกจากนี้ทางยอดวันเผด็จยังได้เปิดเผยต่อไปอีกว่า ในส่วนของสมรักษ์นั้นตนเองยอมรับว่าเป็นนักมวยที่เก่งมาก สภาพร่างกายก็ยังดีอยู่ จึงไม่อยากที่จะให้เลิกมวยระยะนี้ต้องขึ้นชกมวยต่อไป เชื่อว่าหากมีคู่ต่อกรที่เหมาะสมแล้ว สมรักษ์ น่าที่จะปลุกกระแสของวงการมวยให้คึกคักอย่างต่อเนื่องแน่

 
        ยอมรับว่าสู้สมรักษ์ไม่ได้จริงๆ สภาพร่างกายความหนุ่มแน่นเป็นรองเยอะ ในส่วนของสมรักษ์ก็ไม่อยากที่จะให้ปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้ทำการฟิตซ้อมเอาไว้ อย่างต่อเนื่อง จะได้ขึ้นชกมวยย้อนยุคให้แฟนมวยได้ชมกันอีก และดีใจมากที่ไฟต์นี้ตนเองได้ร่วมสร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการมวยอีกครั้ง แม้ว่าจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ก็ตามที ถือว่าได้ทำตามความฝันที่จะได้ขึ้นชกย้อนยุคกับสมรักษ์ในไฟต์นี้

 
        ทางด้าน ฯพณฯ สมศักดิ์ เทพสุทิน เจ้าของสีเสื้อ ท.เทพสุทิน ซึ่งได้เดินทางมาให้กำลังใจสมรักษ์ ได้เปิดเผยว่าเท่าที่ดูสภาพร่างกายของสมรักษ์ยังไม่สมบูรณ์เท่าที่ควร ต้องทำการฟิตซ้อมให้หนักมากกว่านี้อีก ซึ่งตนเองขอมอบหมายให้ชุ้นเป็นผู้ดูแลสมรักษ์

 
        หากมีคู่ต่อสู้ที่เหมาะสมก็ขอให้แจ้งตนเองทันที พร้อมที่จะมีเดิมพันให้กินอย่างไม่อั้นแน่นอน หากเจอมวยที่ไม่แกร่งมากนักไม่เด็กเกินไป เป็นมวยอายุรุ่นราวคราวเดียวกับสมรักษ์ แล้วยังเชื่อว่า สมรักษ์ น่าที่จะสู้ได้อย่างสนุกแน่ และตนเองก็พร้อมที่จะให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องแน่นอน ขอเพียงเจอคู่มวยที่ถูกคู่แฟนมวยก็ต้องให้ความสนใจเข้ามาชมกันอย่างหนาตา วงการมวยต้องคึกคักมากยิ่งขึ้นแน่นอน

 
        สำหรับโปรโมเตอร์ ชุ้น เกียรติเพชร ได้เปิดเผยว่าไฟต์นี้ สมรักษ์ชกได้ดีในระดับหนึ่ง สภาพร่างกายก็ถือว่าใช้ได้ หากมีการฟิตซ้อมอย่างต่อเนื่องก็พร้อมที่จะจัดให้ขึ้นชกอีกครั้งแน่ ซึ่งตนเองนั้นได้เตรียมติดต่อ จอมโหด เกียรติอดิศักดิ์ อดีตแชมป์เวทีมวยมาตรฐาน ที่ปัจจุบันยังชกมวยเป็นแชมป์โลกมวยไทยอยู่มาชกพิสูจน์ฝีมือกับสมรักษ์ตาม ที่ จอมโหด เคยออกข่าวท้าเอาไว้

 
        แต่อย่างไรก็ดี หากจะให้ไปชกกันที่ภาคใต้ตามที่จอมโหดต้องการนั้นเป็นไปไม่ได้แน่แต่ถ้าหาก จอมโหดสนใจที่จะเดินทางมาชกกับสมรักษ์ในเมืองกรุงแล้ว ต้องได้เจอกันแน่ และเชื่อว่าต้องเป็นคู่มวยที่ถูกคู่สมน้ำสมเนื้อ แฟนมวยให้การยอมรับ และสนใจกันมากแน่นอน ก็ต้องรอว่า จอมโหด จะตกลงหรือไม่เท่านั้น

 
        ในส่วนของโปรโมเตอร์ มิตร นคร ซึ่งเป็นโปรโมเตอร์ที่สร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการมวยอีกครั้งได้เปิดเผย ว่า ศึกวันมิตรชัย นัดที่ผ่านมานั้น ที่ประสบความสำเร็จนั้น จะเกิดขึ้นไม่ได้แน่ หากไม่ได้รับการสนับสนุนจาก เฉลิมพงษ์ เชี่ยวสกุล กรรมการผู้จัดการเวทีมวยราชดำเนิน, ไพร ปัณยาลักษณ นายสนามมวยลุมพินี, พล.ต.สุรไกร จัตุมาศ นายสนามมวยลุมพินี ที่ให้การสนับสนุนคู่มวยจากฝั่งของเวทีมวยลุมพินี

 
        ยกคู่ข้ามไปชกที่เวทีมวยราชดำเนิน, โปรโมเตอร์ "เสี่ยเน้า" วิรัตน์ วชิรรัตนวงศ์, โปรโมเตอร์ ชุ้น เกียรติเพชร, ยอดวันเผด็จ ไก่ย่างห้าดาว, สมรักษ์ ท.เทพสุทิน และผู้เกี่ยวข้องทุกคน ที่ให้การสนับสนุนจนทำตนเองประสบความสำเร็จอย่างสูงในการจัดมวยครั้งนี้ ซึ่งต้องขอขอบคุณเป็นอย่างมาก หากไม่มีผู้สนับสนุนความสำเร็จก็ไม่เกิดขึ้นแน่นอน

 
        สำหรับยอดค่าผ่านประตู ศึกวันมิตรชัย เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 ต.ค. ที่ผ่านมา ณ เวทีมวยราชดำเนิน นั้นสามารถเก็บค่าผ่านประตูได้ทั้งสิ้น 2.9 ล้านบาทนั้น ถือว่ามากที่สุดในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา ซึ่งเวทีมวยราชดำเนิน มีการปิดห้องขายตั๋วโดยครั้งสุดท้ายนั้น

 
        เท่าที่มีการบันทึกกันเอาไว้คือการชกระหว่าง พุฒ ล้อเหล็ก กับ วิชาญน้อย พรทวี เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2519 ซึ่งในครั้งนั้นเป็นครั้งสุดท้ายที่เวทีมวยราชดำเนิน ต้องปิดห้องขายตั๋วซึ่งตนเองเสียดายที่ห้องตั๋วต้องปิดก่อน เนื่องจากไม่มีสถานที่เอาไว้รองรับแฟนมวยแล้ว หากไม่มีการปิดห้องขายตั๋วยังมั่นใจว่ายอดค่าผ่านประตูจะต้องทะลุหลัก 3 ล้านบาทแน่ อีกทั้งชาวต่างชาติก็ไม่สามารถที่จะซื้อตั๋วเข้าชมด้วย

 
        เนื่องจากชั้นริงไซด์นั้นแน่นขนัดจริงๆ ต้องขอขอบคุณแฟนมวยชาวไทยทั้งขาจรและขาประจำที่เข้ามาให้กำลังใจในการจัดมวยนัดนี้