นายเนวิน ชิดชอบ  ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จับมือ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ส่ง 11 นักเตะเยาวชน เหินฟ้าสู่ประเทศอังกฤษ เพื่อร่วมฝึกซ้อมกับ อะคาเดมี่ เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมดังในศึกเดอะ แชมเปี้ยนชิพ เมืองผู้ดีตามโครงการ Road to Stardomปีที่ 2 มั่นใจช่วยเพิ่มประสบการณ์ให้ก้าวสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพและก้าวขึ้นไปเล่นในลีกชั้นนำของโลกในอนาคต

เมื่อเวลา 21.00 น. ของวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา ณ สนามบินสุวรรณภูมิ นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นางกรุณา ชิดชอบ ประธานเชียร์แฟนคลับ นายทัดเทพ พิทักษ์พูลสิน ผู้จัดการทีมฯ พร้อมด้วย นายพิทักษ์ ทับทิม ผู้จัดการส่วนกิจกรรมพิเศษ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ได้เดินทางมาส่งนักเตะเยาวชนของทีมจำนวน 11 คน ที่จะเดินทางไปฝึกซ้อมกับ สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ทีมชั้นนำในศึก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ประเทศอังกฤษ

สำหรับการเดินทางไปครั้งนี้ มีนักเตะเยาวชน 11 คน โดย 4 ใน 11 คน เป็นการฝึกต่อเนื่อง คือ นายเชาว์วัตน์ วีระชาติ นายณัฐวุฒิ สมบัติโยธา นายอาทิตย์ พรหมขันธ์ นายปิยพงษ์ หอมขจร ซึ่งเคยเดินทางไปฝึกมาแล้วเมื่อปีที่ผ่านมา ส่วนนักฟุตบอลใหม่ 7 คน ประกอบด้วย นายคมสันต์ ถนอมแนว นายวิทวุฒิ เนตรคำ นายนิรุจน์ ยาปัน นายป้องเพชร ทองเกล็ด นายอานนท์ อมรเลิศศักดิ์ นายกันตวัฒน์ สุวรรณภาญกูร นายปวเรศ อาจพิบูลย์พร โดยทั้งหมดออกเดินทางในวันที่ 5 ต.ค.2555 ด้วยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ ทีจี 910 เวลา 00.25 น.

นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กล่าวถึงโครงการนี้ว่า “มันคือสิ่งที่เป็นความหวัง และก็เป็นความตั้งใจที่สูงสุด ของการเป็นประธานสโมสร ก็คือ อยากจะเห็นเด็กไทย ไปเป็นนักฟุตบอลอาชีพของลีกชั้นนำระดับโลก และวิธีเดียวที่ทำให้เด็กเหล่านั้นไปได้ คือต้องให้พวกเขาไปซึมซับวัฒนธรรม และวิถีชีวิตของความเป็นนักฟุตบอลอาชีพจริงๆ ของลีกเหล่านั้นให้ได้”

“เพราะว่าถ้าเด็กยังอยู่แค่ในประเทศไทย ไม่ว่าจะเก่งขนาดไหนก็ตาม แต่ถ้าเขาไม่ซึมซับพฤติกรรมของนักฟุตบอลอาชีพของลีกชั้นนำระดับโลกจริงๆ ก็เป็นได้แค่เพียงหิงห้อยในกะลา ที่คิดว่าตัวเองมีแค่แสง ซึ่งจะทำให้พวกเขาไปไม่ถึงจุดที่ผมอยากจะให้เขาเป็นได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงส่งเด็กไปอยู่ที่ เลสเตอร์”

นอกจากนี้ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังกล่าวอีกว่า “สำหรับโครงการนี้ต้องขอขอบคุณ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด  ที่ให้งบประมาณมาสนับสนุน  ตรงจุดนี้เองทำให้เห็นถึงความตั้งใจ  และความจริงใจที่มีต่อเยาวชน  และ  บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด  เปิดโอกาสให้เสมอกับเด็กที่รักและชอบฟุตบอล  รวมทั้งเด็กที่มีพรสรรค์  แต่ว่าโอกาสจะไม่เปิดสำหรับคุณเลย หากคุณไม่มีพรแสวงกับวินัย รวมทั้งไม่เป็นเด็กดี และไม่ตั้งใจเรียน”

“จึงอยากฝากไปถึงผู้ปกครองทุกคน ที่อยากเห็นลูกเติบโตเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ทีม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ให้โอกาสเด็กเสมอ สำหรับคนที่อยากจะเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ขอเพียงแต่ว่าเด็กคนนั้นต้องเป็นคนดีและมีวินัย” ประธานสโมสร "ปราสาทสายฟ้า” กล่าวทิ้งท้าย

ด้านนายพิทักษ์ ทับทิม ผู้จัดการส่วนกิจกรรมพิเศษ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวถึงโคงการ Road to Stardom ว่า ถือว่าเป็นโครงการที่ดี แล้วก็เป็นโครงการที่จะสานต่อความสำเร็จของนักฟุตบอลได้อย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาสิ่งที่น้องๆ ได้ฝึก อาจจะยังไม่ประสบความสำเร็จ อาจจะเกี่ยวกับด้วยวิธีการ การกินอยู่ การนอน การฝึกเทคนิค รวมถึงการฝึกระเบียบวินัยต่างๆ อาจจะยังไม่ถูกต้อง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ หากได้โครงการ Road to Stardom เข้ามาช่วย ผมว่าจะเป็นสิ่งที่ดี ถ้าเราได้รับการฝึกฝนทักษะการเล่นฟุตบอลอย่างถูกต้องตั้งแต่แรก น้องๆ เหล่านี้ จะมีสิทธิ์เล่นในลีกสูงสุดของแต่ละประเทศได้อย่างสบาย

ในส่วนการสนับสนุนของ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เราได้เล็งเห็นว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่ดี อยากให้เปิดโอกาสให้กับนักเตะทั่วประเทศ เข้ามาได้รับการฝึกฝนตรงนี้ และที่สำคัญน้องๆ เหล่านี้ ต้องฝึกฝนให้ถูกต้องตั้งแต่แรก ไม่ว่าจะเป็นในด้านสุขภาพ และด้านโภชนาการ รวมถึงระเบียบวินัยในทุกๆ ด้าน และถือเป็นโอกาสที่ดีที่ได้ไปฝึกฝนในระดับต่างประเทศ การฝึกในระดับต่างประเทศนั้น จะทำให้น้องๆ เยาวชนได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ เกี่ยวกับทักษะและระบบการเล่นฟุตบอลแบบมืออาชีพ ซึ่งถ้าน้องๆ เหล่านี้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ และนำกลับมาใช้ก็จะเป็นประโยชน์ให้กับสโมสรต้นสังกัด  และในอนาคตถ้าก้าวขึ้นมาเป็นนักฟุตบอลในระดับทีมชาติ ก็จะเป็นประโยชน์ต่อทีมชาติในอนาคตด้วย