ตำรวจยุโรปเผยข่าวสุดช็อค วงการลูกหนังยุโรปเต็มไปด้วยการจ้างวานล้มบอล-ล็อคผลการแข่งขัน โดยนับจนถึงตอนนี้มีเกมที่ต้องสงสัยถึง 380 แมตช์เลยทีเดียว และยังไม่มีทีท่าจะหมดสิ้นลงด้วย เหตุมีมาเฟียที่พร้อมจะทุ่มเงินแบบไม่อั้นคอยหนุนหลังอยู่

วงการฟุตบอลต้องเจอกับข่าวสุดช็อค เมื่อมีรายงานเมื่อวันจันทร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ว่า มีการแข่งขันจำนวนมากกว่า 380 แมตช์ที่อยู่ในข่ายต้องสงสัยว่ามีการล็อคผลการแข่งขัน ซึ่งรวมถึงรายการใหญ่อย่างฟุตบอลโลก, ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รอบคัดเลือก และศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อีก 2 เกมด้วย อีกทั้งยังพบหลักฐานว่ากลุ่มอาชญากรจากประเทศสิงคโปร์มีส่วนพัวพันกับเรื่องนี้ด้วย

ร็อบ เวนไรท์ หัวหน้าสหภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจยุโรป กล่าวว่า "นี่เป็นวันที่น่าเศร้าของวงการฟุตบอลยุโรป" พร้อมเผยอีกว่าตนเองได้ทำการเปิดโปง "เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการล้มบอลเป็นจำนวนที่มากอย่างที่เราไม่เคยพบเจอมาก่อน"

การเดินหน้าสอบสวนคดีดังกล่าวที่ถูกเปิดโปงมาแล้วมีเม็ดเงินที่แยกเป็นจำนวนกว่า 8 ล้านยูโร (ราว 320 ล้านบาท) คือส่วนของกำไรที่ได้จากการพนัน และอีก 2 ล้านยูโร (ราว 80 ล้านบาท) คือส่วนที่เป็นเงินสินบนให้กับผู้เล่นและผู้ตัดสิน ซึ่งเป็นเหตุให้บุคคลมากมายถูกฟ้องดำเนินการทางกฎหมาย โดย เวนไรท์ เผยว่าการเข้ามามีส่วนพัวพันของกลุ่มอาชญากรคือ "สิ่งที่ก่อให้เป็นปัญหาใหญ่ต่อความมั่นคงของวงการฟุตบอลในยุโรป"

เวนไรท์ เผยต่ออีกว่าเครือข่ายกลุ่มอาชญากรสิงคโปร์ ได้เข้ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการล้มบอล พร้อมกับใช้เงินเป็นจำนวนมากกว่า 100,000 ยูโร (ราว 4 ล้านบาท) ต่อแมตช์ สำหรับการหยิบยื่นเงินสินบนให้กับบรรดานักเตะและผู้ตัดสิน

อย่างไรก็ดี เห็นได้ชัดเจนว่าการล้มบอลยังไม่อาจขจัดออกไปได้หมดสิ้นเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ ภายหลังเพิ่งจะมีการเปิดเผยไปเมื่อวันจันทร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า กำลังมีการสืบสวนเกี่ยวกับพฤติกรรมดังกล่าวในประเทศอย่าง เยอรมัน และ อิตาลี ด้วยเช่นกัน

เวนไรท์ และเจ้าหน้าที่รายอื่นปฎิเสธที่จะเปิดเผยหลักฐานใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับนักเตะหรือเกมที่มีส่วนพัวพัน แต่บอกเพียงแค่ว่ากำลังมีการเดินหน้าสืบสวนอยู่ในเวลานี้ โดยระบุว่า "นี่เป็นครั้งแรกที่เราพบหลักฐานที่เป็นวัตถุที่ระบุชัดว่าตอนนี้องค์กรอาชญากรรมกำลังเข้ามามีส่วนพัวพันในวงการฟุตบอล"