สยามสปอร์ต กลับมาดูแลสิทธิประโยชน์ให้สมาคมลูกหนังอย่างเป็นทางการเป็นเวลา 5 ปี พร้อมประกาศเพิ่มมูลค่าการตลาดของไทยพรีเมียร์ลีกให้เป็น 600 ล้านบาทและจะมอบให้สโมสรถึง 60% ในจำนวนนี้

สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ แถลงข่าวพิธีลงนามในสัญญามอบหมายการบริหารจัดการสิทธิประโยชน์ฟุตบอลอาชีพ ปี 2013-2017 ให้กับบริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) กลับมาร่วมงานกันอีกครั้งอย่างเป็นทางการเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา (8 ก.พ.) พร้อมกับประกาศเพิ่มงบสนับสนุนสมาชิกทันที

ก่อนหน้านี้ สยามสปอร์ต สื่อกีฬายักษ์ใหญ่ของประเทศไทยตัดสินใจถอนตัวจากการดูแลสิทธิ์ประโยชน์ให้กับสมาคมฟุตบอลไทย หลังหลายสโมสรรวมตัวตั้งข้อสงสัยเรื่องผลประโยชน์เมื่อช่วงกลางปี 2012

วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลไทย กล่าวว่า "สยามสปอร์ตและสมาคมฟุตบอลถือเป็นคู่ทุกคู่ยากที่อยู่ร่วมกันมานานตั้งแต่ฟุตบอลไทยยังมีคนสนใจไม่มาก ผู้เชี่ยวชาญที่จะมาช่วยเหลือเราก็ไม่ได้หาง่ายๆ และเราได้ความช่วยเหลือจากสยามสปอร์ต เมื่อถึงตอนนี้ฟุตบอลลีกของไทยพัฒนาขึ้นจนเป็นเบอร์ 1 ของอาเซียนและอันดับต้นๆของเอเชียแล้ว"

“แม้ปีที่ผ่านมาจะประสบปัญหาเรื่องการวิพากษ์วิจารณ์พอสมควรแต่สยามสปอร์ตพิสูจน์แล้วว่าทำให้ฟุตบอลไทยเติบโตขึ้นมา ผมทิ้งเพื่อนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาไม่ได้ เราคนไทยต้องมีความกตัญญู ผมได้ไปขอคุณระวิ (โหลทอง) ว่าอย่าให้บอลไทยที่กำลังก้าวหน้าต้องถดถอยลงไป เราขาดพันธมิตรอย่างสยามสปอร์ตไม่ได้" บังยีกล่าว

ด้าน อดิศัย วารินทร์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ในช่วงเวลา 5 ปีที่มาบริหารสิทธิ์ประโยชน์ให้สมาคมฟุตบอลหลังจากนี้ เราตั้งเป้าจะเพิ่มมูลค่าทางการตลาดจากเดิม 200 ล้านบาทให้เป็น 600 ล้านบาท ให้ได้และแน่นอนว่าผู้ที่จะได้ประโยชน์จากตรงนี้คือสโมสรสมาชิก"

“เราจะมีการเปิดประมูลลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีกปี 2014-2016 ในช่วงมี.ค.นี้ และจะพยายามเพิ่มมูลค่าให้ได้ 600 ล้านบาท โดยส่วนแบ่ง 60% คือ 360 ล้านบาทจะแบ่งให้กับสโมสรซึ่งจะหมายความว่าทีมในไทยพรีเมียร์ลีกจะมีเงินสนับสนุนไม่ต่ำกว่าปีละ 20 ล้านบาทในช่วงเวลาดังกล่าว"

“ส่วนอีก 40 % นั้นจะเป็นรายได้จากการบริหารจัดการสิทธิประโยชน์ แบ่งเป็นค่าดำเนินการถ่ายทอดสด ,ค่าผู้ตัดสิน ,สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการของบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด,ค่าดำเนินผลิตป้ายโฆษณาการประชาสัมพันธ์ต่างๆเป็นต้น" นายอดิศัย กล่าว

ขณะที่ในปีนี้สมาคมฟุตบอลประกาศว่าจะเพิ่มงบประมาณสนับสนุนทีมไทยพรีเมียร์ลีกจากเดิม 5 ล้านบาทเป็น 6 ล้านบาทโดยแบ่งจ่าย 3 ครั้ง ๆละ 2 ล้านบาทในช่วงก่อนเปิดฤดูกาล หลังจบเลกแรก และ หลังจบฤดูกาล

ประมุขลูกหนังไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า "สมาคมฟุตบอลจะนำโครงสร้างการจัดประมูลผู้ถือลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดทีวีแบบพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มาใช้ในประเทศไทย ในการประมูลครั้งต่อไป ซึ่งจะมีการประชุมและกำหนดวันอีกครั้งในเร็วๆนี้"