ศึกยักษ์ชนยักษ์ครั้งที่ 11 ระหว่างทัพกิเลนผยองกับคู่ปรับแย่งแชมป์มาตลอดอย่างทัพฉลามชล ศึกแรกของคู่ปรับตลอดกาลไทยลีกปีนี้ ชัยชนะอาจจะทำให้ทีมใดทีมหนึ่งเพิ่มโอกาสลุ้นแชมป์ปีนี้ไปเลย

 11ผู้เล่นตัวจริงที่น่าจะลงสนาม

เอส ซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด (4-4-2) กวินทร์ -ฐิติพันธ์ ,ดาโน ,คิม ดอง-จิน ,สุริยา -ปิยพล ,ดัสกร ,พาร์ทาลู ,มาริโอ -วุฒิชัย ,ธีรศิลป์

ชลบุรี เอฟซี (4-1-4-1) สินทวีชัย - ชลทิตย์, สุทธินันท์, ดิอากิเต้, กรกช - แอนเดอร์สัน- นูรูล, คูชิดะ, อดุล,ณัฐพงศ์- พิภพ

สภาพความพร้อมของทั้งสองทีม

เอส ซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ดของโค้ช พล ชมชื่น ทำผลงานในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาได้ไม่ค่อยดีนักหลังไม่ชนะใครเลยจนเสีย ตำแหน่งจ่าฝูงให้กับบีอีซี เทโรศาสน เกมนี้พวกเขาจะขาดนักเตะตัวหลักถึงสองตัวทั้งในรายของเจย์ โบธรอยด์และทศพล ลาเทศที่ติดโทษแบน คาดว่าแดนหน้าในตำแหน่งเจย์โบน่าจะเป็นวุฒิชัย ทาทองที่น่าจะได้ลงมาจับคู่กับธีรศิลป์ แดงดาที่น่าจะผ่านการเช็คความฟิตในเกมนี้ ในขณะนี้แนวรับดาโน เซียก้าน่าจะชิงโควต้าต่างชาติลงมาเล่นเซ็นเตอร์แบ็คคู่กับ คิม ดอง จิน

ด้าน ชลบุรี เอฟซีเองก็ทำผลงานในช่วงหลังได้ดีหลังชนะติดต่อกันมาสองนัดแล้ว เกมนี้พวกเขาจะไม่มีติอาโก้ คุนญาดาวซัลโวตัวเก่งที่มีอาการบาดเจ็บเพียงรายเดียวและคาดว่าเกมนี้วาดะซัง น่าจะวางเกมแบบรัดกุม โดยให้พิภพ อ่อนโม้เป็นกองหน้าตัวเป้า โดยมีคาซูโตะ คูชิดะกับ อดุล หละโสะ คอยคุมเกมตรงกลาง และมีแอนเดอร์สัน ดอส ซานโตสที่กำลังโชว์ฟอร์มได้ดีเป็นตัวปัดกวาดหน้าแผงแบ็คโฟรฺ์

รู้หรือไม่

-ทั้ง คู่ปะทะกันมาแล้วถึง 10 ครั้งในเกมลีกเป็นเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ดที่ทำได้ดีกว่าหลังเอาชนะไปทั้งหมด 4 ครั้ง เสมอกัน 5 ครั้ง ส่วนชลบุรีชนะไปเพียงครั้งเดียวเท่านั้น

-โดยนักเตะของกิเลนผยองที่ทำประตูใส่ทีมฉลามชลได้มากที่สุดก็คือ ดาโน เซียก้าและมาริโอ ยูร็อฟสกี้ที่ยิงกันไปคนละ 4 ประตู

-โดย เจ้าเกรียนโอ้ถือเป็นตัวแสบของชลบุรีเมื่อปีที่แล้วเลยก็ว่าได้หลังเป็นนัก เตะคนเดียวของเมืองทองที่ยิงประตูใส่ทีมดังจากภาคตะวันออกได้เพียงคน

- การพบกันของคู่นี้ถือว่ามีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 2.9 ประตูต่อนัดและมีการพบกันเพียงแค่นัดเดียวเท่านั้นที่ทั้งคู่จบลงด้วยการเสมอกัน 0-0

-ชัยชนะเพียงครั้งเดียวที่ฉลามชลมีต่อกิเลนผยองเกิดขึ้นเมื่อปี 2011 โดยได้ประตูชัยจากนูรูล ศรียานเก็ม

-นักเตะที่เคยลงเล่นให้กับทั้งสองสโมสรมาแล้วคือ ปิยพล ผานิชกุล

HEAD 2 HEAD : คู่ดวลเดือดบนสังเวียนไทยแลนด์กลาซิโก

กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์	สถิติน่าสนใจ			สินทวีชัย หทัยรัตนกุล
	11	ลงเล่น	12
	946	จำนวนนาที	1,080
	3	คลีนชีต	3

 ไทยแลนด์กลาซิโก้ ยังเป็นการวัดกันของสองผู้รักษาประตูที่เรียกได้ว่าดีที่สุดของประเทศยุคนี้ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ นายด่านหนุ่มร่างบึ๊กกับ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล จอมหนึบวัยเก๋า ที่มีสถิติใกล้เคียงกันมากในปีนี้

"กวินทร์บินได้" คือนายทวารที่มาแรงที่สุดในหลายปีหลังของไทยด้วยรูปร่างที่เทียบชั้นมือกาว ยุโรปสบายๆและปฏิกิริยาที่ฉับวัยรวมทั้งความแน่นอนในการตัดบอลทำให้ได้รับ ความไว้วางใจในระดับสโมสรและทีมชาติอยู่เสมอหากไม่มีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน

“ซูเปอร์ ตี๋" พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาคือหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ยอดเยี่ยมในช่วงทศวรรษที่ ผ่านมาโดยติดทีมชาติไปเกือบ 80 นัด ด้วยบุคลิกความเป็นผู้นำทั้งในและนอกสนาม การเซฟลูกยิงแบบมหัศจรรย์ที่ช่วยให้ทีมรอดพ้นจากความพ่ายแพ้มาหลายครั้ง ที่สำคัญเขาเป็นผู้เล่นที่ไม่มีปัญหาบาดเจ็บเข้ามากวนใจซักเท่าไร

เอริค พาร์ทาลู	สถิติน่าสนใจ			แอนเดอร์สัน ดอสซานโต้ส
	11	ลงเล่น	9
	990	จำนวนนาที	764
	0	ประตู	4

ขยับขึ้นมาในแนวรับคู่ดวลที่น่าสนใจคือการปะทะกันของสองมิดฟิลด์ตัวตัด เกมที่เป็นปราการด่านสำคัญเพื่อหยุดเกมรุกคู่ และทั้งคู่กำลังทำผลงานได้ดีด้วยก่อนจะดวลกันเป็นครั้งแรก

พาร์ทาลู เข้ามาสู่ถิ่นเอสซีจี สเตเดี้ยม ในฤดูกาลนี้และสามารถยึดตัวหลักจาก ดาโน เซียก้า ขวัญใจชาวกิเลนผยองได้อย่างรวดเร็วซึ่งไม่ได้มาเพราะโชคช่วยแน่นอน เขามีเปอร์เซ็นต์การตัดบอลที่สูงอันดับต้นๆของลีก โดยเฉพาะการมีรูปร่างที่สูงใหญ่ แข็งแกร่งเล่นลูกกลางอากาศได้ดี ช่วยแบ่งเบาภาระแบ็กโฟร์ได้อย่างดีเยี่ยม

หลังผ่านช่วงเวลาที่ยาก ลำบากในการค้าแข้ง 2 ปีแรกบนถิ่นชลบุรี สเตเดี้ยม แอนเดอร์สัน สลัดอาการบาดเจ็บกลับมาพิสูจน์ตัวเองได้อย่างดีเยี่ยมในปีนี้ เขายึดตัวหลักในแผงมิดฟิลด์ฉลาม สามารถช่วยทีมได้ทั้งเกมรุกและรับ การเล่นลูกกลางอากาศที่สามารถช่วยทีมในยามโดนคู่แข่งบุก รวมไปถึงขึ้นไปทำประตูได้อยู่บ่อยครั้งอีกด้วย

มาริโอ ยูรอฟสกี้	สถิติน่าสนใจ			คาซุโตะ คูชิดะ
	10	ลงเล่น	12
	857	จำนวนนาที	1080
	6(4)	ประตู(แอสซิสต์)	1

ห้องเครื่องซามูไร ปะทะ จอมทัพมาซิโดเนีย สองหัวใจในแดนกลางของศึกไทยแลนด์กลาซิโก ที่อาจจะเป็นตัวตัดสินเกมนี้

ยู รอฟสกี้ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาคือนักเตะต่างชาติที่ดีที่สุดในไทยพรีเมียร์ลี กช่วง 3 ปีหลังสุดจำนวนการยิงประตูและแอสซิสที่ไม่เคยตกลงเลยในแต่ละปี มันสมองในการทำเกมรุกที่หาคนจับทางได้ยากทั้งยังมีอาวุธเด็ดกับลูกตั้งเตะ และยิงไกลที่พร้อมเปลี่ยนเป็นประตูอยู่เสมอ

คูชิดะ คือดาวเตะจอมขยันที่ฉลามชลไม่อาจขาดได้เลยใน 4 ปี นับตั้งแต่เขาย้ายมาก็สามารถยึดตัวหลักได้อยู่ตลอด เขาแทบไม่มีปัญหาอาการบาดเจ็บหรืออ่อนล้ารบกวนทั้งที่ลงเล่นครบทุกนาที การจ่ายบอลที่แน่นอน เคลื่อนที่ได้อย่างชาญฉลาด ควบคุมจังหวะช้าเร็วของบอลได้ ที่สำคัญเขาเป็นนักเตะที่วิ่งเยอะที่สุดของทีมในแทบทุกเกม

ดัสกร ทองเหลา	สถิติน่าสนใจ			อดุล หละโสะ
	12	ลงเล่น	11
	921	จำนวนนาที	965
	2(3)	ประตู(แอสซิต์)	1

กัปตันโก้อาจจะดูโรยราไปบ้างแต่ประสบการณ์ของเขายังสำคัญต่อทีม โดยเฉพาะการประคับประคองรุ่นน้อง เป็นศูนย์รวมจิตใจและสร้างความฮึกเหิม ส่วนการวางบอลยาว ลูกฟรีคิก รวมไปถึงการยิงไกลยังเป็นสิ่งที่แนวรับฉลามชลประมาทไม่ได้

ฮาร์ดแมน ทีมชาติไทยอาจจะไม่ใช่ผู้เล่นที่โดดเด่นมากแต่ถือเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญใน แดนกลางของฉลามชล สไตล์การวิ่งสู้ฟัด กัดไม่ปล่อยจะทำให้แผงกลางของกิเลนผยองทำงานยากในเกมนี้ อีกทั้งการจ่ายบอลที่แน่นอน และมีจังหวะสอดทะลุขึ้นไปทำประตูได้บ่อยครั้งด้วย

ธีรศิลป์ แดงดา	สถิติน่าสนใจ			พิภพ อ่อนโม้
	11	ลงเล่น	12
	918	จำนวนนาที	852
	7(2)	ประตู(แอสซิสต์)	3

ท่ามกลางดาวยิงชั้นนำจากทั่วทุกทวีปของโลกที่เข้ามาสร้างความแตกต่างใน ไทยพรีเมียร์ลีกอาจจะเรียกได้ว่ามีแค่ 2 หัวหอกไทยคู่นี้เท่านั้นที่ยืนหยัดเป็นตัวหลักและความหวังของทีมในกลุ่มลุ้น แชมป์ได้มาตลอด

การขาดเจย์ โบธรอย์ที่ติดโทษแบนทำให้เชื่อว่าเอสซีจี เมืองทอง ฯ อาจต้องเข็น ธีรศิลป์ ลงเล่นในเกมนี้แม้จะไม่สมบูรณ์เต็มร้อย แต่เมื่อมีดาวยิงรายนี้อยู่ในสนามจะเพิ่มความเชื่อมั่นในเกมรุกให้กับทีมไม่ น้อย เพราะไม่ใช่แค่จังหวะการทำประตูที่ไว้ใจได้เสมอเขายังสามารถถอยลงมาเป็นตัว สร้างสรรค์เกมได้ด้วยเมื่อทีมต้องการ

“เจ้าชายกบ” กลายเป็นความหวังสูงสุดของทีมทันทีเมื่อ ติอาโก คุนญ่า คู่ขาบราซิลเลียนได้รับบาดเจ็บยาว แม้วัยจะล่วงเลยไปถึง 35 แล้วแต่ดูเหมือนจะไม่ใช่ปัญหาของเจ้าตัวเลย เขายังคงมีความปราดเปรียว โฉบเข้าทำประตูได้ทั้งภาคพื้นดิน และลูกกลางอากาศที่กลายเป็นคุณสมบัติเฉพาะตัวไปเสียแล้ว ซึ่งหากแนวรับกิเลนผยองเสียสมาธิเพียงนิดเดียวอาจต้องน้ำตาตกได้