ฟาบิโอ คาเปลโล่ กุนซือชาวอิตาเลียน ยกย่อง ลิโอเนล เมสซี่ กองหน้า บาร์เซโลน่า เทียบชั้นกับสุดยอดตำนานลูกหนังโลกอย่าง อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่, เปเล่ และ ดีเอโก้ มาราโดน่า ไปแล้ว ชี้นี่คือยุคของยอดแข้งอาร์เจนไตน์อย่างแท้จริง

ฟาบิโอ คาเปลโล่ ยอดเทรนเนอร์ชาวอิตาเลียน ออกมากล่าวยกย่อง ลิโอเนล เมสซี่ หัวหอกทีมชาติอาร์เจนตินา ของ บาร์เซโลน่า สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก ลา ลีกา สเปน ว่ามีความยอดเยี่ยมเทียบชั้นกับสุดยอดตำนานลูกหนังโลกอย่าง อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่, เปเล่ และ ดีเอโก้ มาราโดน่า ได้แล้ว

คาเปลโล่ รับประทับใจตั้งแต่แรกเห็นดาวยิงอาร์เจนไตน์ เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2005 ซึ่งในครั้งนั้นคุมทีม ยูเวนตุส ลงทำศึก โจน กัมเปร์ โทรฟี่ ที่ สนาม คัมป์ นู โดยกล่าวกับหนังสือพิมพ์ เอล มุนโด้ เดปอร์ติโบ ของสเปนว่า "25 นาทีก่อนที่จะหมดเวลา ผมได้ทาบทาม แฟร้งค์ ไรจ์การ์ด (ที่คุม บาร์เซโลน่า ในสมัยนั้น) ขอดึงตัว เมสซี่ มายัง ยูเว่ ผมรู้เกี่ยวกับปัญหาไม่ลงรอยกันกับฝ่ายบริหาร (ในทีม บาร์ซ่า) และผมรู้ว่าเขาคงไม่สามารถเริ่มต้นฤดูกาลกับ บาร์เซโลน่า ได้"

"ดังนั้นมันจึงทำให้ผมอยากได้เขามาที่ ตูริน แต่ แฟร้งค์ บอกกับผมว่าในอีก 3 หรือ 4 เดือนเมื่อทุกอย่างมันลงตัวแล้ว เลโอ จะพร้อมเล่นให้กับ บาร์ซ่า แต่ผมยังจำได้ดี ตอนที่เห็นชื่อเขาในรายชื่อนักเตะที่ลงสนาม และเขาทำให้ผมตกตะลึงไปเลย"

"ผมแทบไม่อยากจะเชื่อว่านักเตะในวัยขนาดเขาจะเล่นได้แบบนั้น ต่อหน้าคนดูกว่า 90,000 คน และไม่ได้สนด้วยว่าเขากำลังถูกนักเตะอย่าง (เฟเดริโก้) บัลซาเร็ตติ ตามประกบอยู่ ท่าทางของเขา คุณภาพของเขา การลากเลื้อยของเขา มันน่าทึ่ง เขาครองบอล และฝ่าไปเพื่อไปทำประตูด้วยความอหังการอย่างเหลือเชื่อ"

"มันเหมือนกับ (ฟรังโก้) บาเรซี่ หรือ (เปาโล) มัลดินี่ พวกเขาต่างเป็นนักเตะที่รู้ตัวดีว่าพวกเขาสามารถก้าวสู่จุดสูงสุดได้เพราะพวกเขามีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมอยู่ในตัว จากตรงนั้นเอง มันก็ขึ้นอยู่กับสิ่งในอยู่ในหัวของนักเตะ แต่ผมตระหนักดีถึงความแตกต่างที่ผมได้มองเห็น สิ่งที่เขาแสดงให้ดูในเกมที่พบกับ ยูเว่ ผมไม่สงสัยเลยว่า เมสซี่ จะก้าวสู่ระดับสุดยอดได้"

"คุณสามารถพูดถึงนักเตะที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ เพราะฟุตบอลมีช่วงเวลาหลากหลายที่แตกต่างกัน และนักเตะแค่ละคนก็มีความเหนือชั้นกว่าทุกคนอย่างโดดเด่น ครั้งแรกมันก็เป็น ดิ สเตฟาโน่ ก่อนจะเป็น เปเล่ และ ดีเอโก้ มาราโดน่า และตอนนี้มันเป็นยุคของ เมสซี่ แล้ว" อดีตกุนซือทีมชาติอังกฤษ กล่าวในที่สุด