เรอัล มาดริด ระบุเอง ได้ยื่นอุทธรณ์กรณีที่ถูกปรับตกรอบ 32 ทีมสุดท้ายของศึก โกปา เดล เรย์ กับทางศาลด้านการดำเนินการการแข่งขันกีฬาแล้ว หลังเพิ่งถูกสหพันธ์ฟุตบอลสเปนบอกปัดการอุทธรณ์มาหมาดๆ

 เรอัล มาดริด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งวงการ ลา ลีกา สเปน เปิดเผยว่าได้ยื่นอุทธรณ์กับศาลด้านการดำเนินการการแข่งขันกีฬา (ทีเอดี) ของรัฐบาลประเทศสเปน จากกรณีที่ถูกปรับตกรอบ 32 ทีมสุดท้ายของศึก โกปา เดล เรย์ แล้ว

 ในรอบดังกล่าว เรอัล ถูกจับมาเจอกับ กาดิซ ทีมในระดับ เซกุนด้า เบ (เทียบเท่ากับลีกระดับ 3) แต่ในนัดแรกซึ่งแข่งกันเมื่อวันพุธที่ 2 ธันวาคม ที่ผ่านมามันกลับเกิดปัญหาขึ้นเพราะ ราฟาเอล เบนิเตซ เทรนเนอร์ "ราชันชุดขาว" ส่ง เดนิส เชอรีเชฟ ปีกชาวรัสเซียลงเล่นเป็นตัวจริงด้วย ทั้งที่ เชอรีเชฟ ติดโทษแบนอยู่ 1 นัด หลังจากที่เคยได้ใบเหลือง 3 ใบตอนเล่นรายการนี้ให้ บียาร์เรอัล เมื่อฤดูกาลก่อน

ประเด็นนี้ทำให้ เรอัล ถูกปรับตกรอบทันที โดย ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานของยอดทีมแห่งถิ่น ซานติอาโก้ เบร์นาเบว พยายามชี้แจงว่าทีมของตนไม่ได้ทำผิดกฎเลย แถมไม่มีใครแจ้งให้สโมสร รวมถึง เชอรีเชฟ รู้ด้วยซ้ำว่าดาวเตะจากแดนหมีขาวติดโทษแบนอยู่

หลังจากนั้น เรอัล ได้ยื่นอุทธรณ์กับสหพันธ์ฟุตบอลสเปน (อาร์เอฟอีเอฟ) แต่สุดท้ายก็โดนปฏิเสธ แถมยังถูกสหพันธ์ลูกหนังแดนกระทิงดุตำหนิอีกว่าสโมสรควรจะรู้ดีอยู่แล้วว่านักเตะคนไหนในทีมที่ติดโทษแบนอยู่ อย่างไรก็ตาม เรอัล ก็ไม่คิดที่จะยอมแพ้ง่ายๆ

"เรอัล มาดริด ซี.เอฟ. ได้รับและวิเคราะห์คำตัดสินของคณะกรรมการด้านการอุทธรณ์แล้ว โดยต้องขอยืนยันว่า เดนิส เชอรีเชฟ ไม่ได้รับการแจ้งว่ามีโทษแบนติดตัวอยู่ ซึ่งการแจ้งให้ทราบถึงโทษแบนเป็นทางเดียวที่จะทำให้โทษแบนมีผล ด้วยเหตุนี้ ทางสโมสรจึงได้ยื่นอุทธรณ์เรื่องนี้กับศาลด้านการดำเนินการการแข่งขันกีฬาต่อทันที" แถลงการณ์ของ เรอัล ระบุ