อเล็กซานเดอร์ กามา กุนซือ "ปราสาทสายฟ้า" ยันลูกทีมพร้อมรบเอฟซี โซล และไม่มีปัญหาในเรื่องของอาการล้า พร้อมกับจะไม่ประมาท ออสมาร์ อิบันเญซ อดีตปราการหลังเลือดกระทิงที่กลับมาเยือนถิ่นเก่าแน่นอน ในศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2016 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอฟ ที่สนามไอ-โมบาย สเตเดี้ยม วันที่ 23 ก.พ. นี้

 ความเคลื่อนไหวของศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2016 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอฟ ซึ่งในวันที่ 23 ก.พ. นี้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของเอฟซี โซล ในเวลา 18.00 น. ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 ก.พ. ที่ผ่านมา ได้มีการแถลงข่าวความพร้อมของทั้งสองทีมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ส่ง อเล็กซานเดอร์ กามา กุนซือใหญ่ของทีม พร้อมด้วย "กัปตันกบ" สุเชาว์ นุชนุ่ม มาให้สัมภาษณ์ก่อนที่จะเปิดฉากเกมแรกของถ้วยใหญ่เอเชีย ในกลุ่ม เอฟ

อเล็กซานเดอร์ กามา เฮดโค้ช "ปราสาทสายฟ้า" บอกว่า "เรามีความพร้อมสำหรับเกมใหญ่ และเกมแรกของทัวร์นาเมนต์นี้ แม้ขณะนี้เกาหลีใต้จะยังไม่เปิดฤดูกาล แต่เราก็จะไม่ผลีผลามเปิดเกมรุกใส่พวกเขา เพราะส่วนตัวจากที่เคยทำงานที่เกาหลีใต้ ทีมจากหลีใต้จะมาสู้เต็มที่แน่นอน และก่อนหน้านี้พวกเขาก็ลงอุ่นเครื่องมาหลายนัด แต่ยอมรับว่าเอฟซี โซล เป็นทีมที่แข็งแกร่ง แต่จุดเด่นของเราก็แข่งแกร่งเวลาเล่นในบ้านเช่นกัน และเราคงจะไม่จับตามองใครเป็นพิเศษ"

 "ส่วนเรื่องออสมาร์ ก่อนหน้านี้ผมก็ได้ยินชื่อเสียงมาบ้าง เขาเคยคว้าแชมป์กับบุรีรัมย์หลายรายการ และประสบความสำเร็จที่เกาหลีใต้ ฉะนั้นเราก็จะไม่ประมาทเขา แต่เราก็มีผู้เล่นดีๆ อย่าง อันเดรส ตูเนซ หรือใครหลายๆ คน"

          ขณะที่ สุเชาว์ นุชนุ่ม กองกลางกัปตันทีมกล่าวว่า "ตัวผมและนักเตะพร้อมสำหรับเกมแรกแล้ว แน่นอนว่าเป้าหมายของเราคือการเข้ารอบต่อไป ฉะนั้นนัดแรกก็หวังจะได้ 3 แต้ม ซึ่งก็อยากเชิญชวนแฟนบอลเข้ามาให้กำลังใจเรา อีกทั้งเอฟซี โซล เป็นทีมที่มาตรฐานสูงอยู่แล้ว เราเคยเจอเขามาแล้วทั้งเหย้าและเยือน ครั้งสุดท้ายเราบุกไปเสมอและผ่านเข้ารอบไปได้ ซึ่งเขาก็แสดงให้เห็นว่าแข็งแกร่งแค่ไหน ขณะที่ ออสมาร์ อิบันเญซ เรารู้จักเขาดี แต่ฟุตบอลเล่น 11 คน เรารู้อยู่แล้วว่าสไตล์การเล่นเป็นอย่างไร ก็ไม่ได้กังวลว่าจะฝ่าเขาเข้าไปทำประตูได้หรือไม่"

          ซึ่งสถิติของทั้งสองทีมนั้น ปรากฏว่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เคยพบกับเอฟซี โซล มาแล้วในศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2013 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม อี โดยปราสาทสายฟ้าเปิดบ้านเสมอ 0-0 และบุกไปเจ๊า 2-2 ก่อนจะผ่านเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายในปีดังกล่าว