ปรีวิวฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

(รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม อี)
วันพุธที่ 7 ธันวาคม 2559
ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ (อังกฤษ) - ซีเอสเคเอ มอสโก (รัสเซีย)

สนาม : เวมบลีย์, ลอนดอน

        สเปอร์ส กับ ซีเอสเคเอ ตกรอบทั้งคู่แล้ว เหลือแค่เพียงการแย่งจบอันดับ 3 เพื่อคว้าโควต้าลุยต่อในถ้วยเล็ก ยูโรปา ลีก รอบ 32 ทีมสุดท้ายแบบจืดๆ ซึ่ง ไก่เดือยทอง ขอแค่เสมอก็พอแล้ว

        ผลงานในลีก สเปอร์ส เพิ่งเปิดบ้านถล่ม สวอนซี 5-0 แฮร์รี่ เคน ยิง 2, คริสเตียน เอริคเซ่น ยิง 2 และอีก 1 จาก ซอน ฮึง-มิน รั้งอันดับ 5 ตามจ่าฝูง เชลซี 7 คะแนนเท่าเดิม

        กุนซือ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ต้องรอทดสอบความฟิต วินเซนต์ ยานส์เซ่น กองหน้าดัตช์ที่เจ็บข้อเท้า พลาดเกมกับ สวอนซี ยังไม่แน่ว่าจะมีชื่อเกมนี้หรือไม่

        โทบี้ อัลเดอร์แวเรลด์ เซนเตอร์ตัวหลักลงซ้อมมาต่อเนื่อง แต่คาดว่าน่าจะเก็บให้สมบูรณ์สำหรับเกมใหญ่ที่ต้องไปเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สุดสัปดาห์นี้มากกว่า

        ตัวเจ็บคนอื่นๆ ยังหน้าเดิม เอริค ลาเมล่า ปีกก็ยังมีปัญหาที่สะโพก กับ เบน เดวิส แบ็กซ้ายเจ็บข้อเท้า

        การจัดทัพอาจปรับบ้างเล็กน้อย แต่ก็ยังคงตัวหลักหลายคนเอาไว้ เพราะหวังคว้าชัยชนะหรืออย่างน้อยก็คะแนนแรก ในการเล่นที่ เวมบลีย์ ฤดูกาลนี้

        ผู้รักษาประตูยังคงใช้ อูโก้ โยริส ลงเฝ้าเสา แผงหลัง คีแรน ทริปเปียร์, เอริค ดายเออร์, เควิน วิมเมอร์ และ แดนนี่ โรส แดนกลางให้ วิคเตอร์ วานยาม่า คุมเกมกับดาวรุ่ง แฮร์รี่ วิงส์

        แนวรุก มุสซ่า ซิสโซโก้ น่าจะได้รับโอกาสลงประสานงาน เดเล่ อัลลี และ จอร์จส์-เกวิน เอ็นคูดู โดยมี แฮร์รี่ เคน รับบทกองหน้าตัวเป้า

        ฝั่ง ซีเอสเคเอ มอสโก แชมป์ลีกรัสเซีย ยังเดินหน้าไล่ล่าจ่าฝูง สปาร์ตัก มอสโก ต่อไปในฤดูกาลนี้ เพราะตามอยู่ถึง 8 คะแนน โดยเกมล่าสุดเปิดบ้านถล่ม อูราล 4-0

        เทรนเนอร์ เลโอนิด สลุตสกี้ ก็ยังหวังคว้าตั๋วลุย ยูโรปา ลีก ต่อเช่นกัน หากบุกชนะที่ เวมบลีย์ ได้

        สภาพทีมไม่มี โรมัน เอเรเมนโก้ กองกลางที่โดนแบนยาว 2 ปี เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา กรณีตรวจพบโคเคนในร่างกาย

        สลุตสกี้ เรียกนักเตะเพียง 18 คนบุกมา ลอนดอน นำโดยตัวหลัก คู่แฝดแนวรับ เบเรซุตสกี้, อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน แดนกลาง และ ลาชิน่า ตราโอเร่ แดนหน้า

        การจัดทัพ อีกอร์ อาคินเฟเยฟ ลงเฝ้าเสา แผงหลัง มาริโอ แฟร์นันเดส, วาซิลี่ เบเรซุตสกี้, อเล็กเซ เบเรซุตสกี้ และ จอร์จี้ เชนนิคอฟ

        แดนกลาง อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน คุมเกมกับ เบบราส นัตโก้

        แนวรุกเรียก อลัน ชาโกเยฟ คืนตัวจริง ประสานงาน โซรัน โทซิช, จอร์จี้ มิลานอฟ และศูนย์หน้าตัวเป้า ลาชิน่า ตราโอเร่ ที่เพิ่งยิง 2 ประตูเกมลีกล่าสุด

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

        สเปอร์ส : อูโก้ โยริส, คีแรน ทริปเปียร์, เอริค ดายเออร์, เควิน วิมเมอร์, แดนนี่ โรส, วิคเตอร์ วานยาม่า, แฮร์รี่ วิงส์, มุสซ่า ซิสโซโก้, เดเล่ อัลลี, จอร์จส์-เกวิน เอ็นคูดู, แฮร์รี่ เคน

        ซีเอสเคเอ : อีกอร์ อาคินเฟเยฟ, มาริโอ แฟร์นันเดส, วาซิลี่ เบเรซุตสกี้, อเล็กเซ เบเรซุตสกี้, จอร์จี้ เชนนิคอฟ, อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน, เบบราส นัตโก้, โซรัน โทซิช, อลัน ชาโกเยฟ, จอร์จี้ มิลานอฟ, ลาชิน่า ตราโอเร่

        ผู้ตัดสิน : นิโกล่า ริซโซลี่ (อิตาลี)

ข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจ

- สเปอร์สชนะ 4 จาก 6 ครั้งก่อนหน้านี้ที่พบสโมสรรัสเซียในทุกรายการ โดยเสมอ 1 แพ้ 1 (0-1 ในการเยือนรูบิน คาซาน ยูโรปา ลีก 2011-12) ขณะที่ในบ้าน พวกเขาไม่เคยแพ้ (ชนะ 2 เสมอ 1)
- ซีเอสเคเอชนะแค่ครั้งเดียวจาก 6 เกมที่เยือนสโมสรอังกฤษในชปล. (เสมอ 2 แพ้ 3) จากเกมเมื่อพฤศจิกายน 2013 ที่พบแมนฯ ซิตี้ (2-1)
- ซีเอสเคเอ มอสโกไม่สามารถทำคลีนชีตตลอด 9 เกมชปล.หลังสุดที่เจอทีมจากอังกฤษ
- สเปอร์สและซีเอสเคเอ มอสโก ต่างมีลุ้นโควตายูโรปา ลีก โดยทีมจากรัสเซียต้องการชัยชนะเพียงสถานเดียว ในการคว้าอันดับ 3
- สเปอร์สยิงไม่เกิน 1 ประตูตลอด 9 เกมหลังสุดชปล. ขณะที่ในรอบแบ่งกลุ่มฤดูกาลนี้ มีเพียง 3 จากการยิง 58 ของสเปอร์สที่ตุงตาข่าย (5%)
- สเปอร์สชนะแค่ครั้งเดียวจาก 8 เกมหลังสุดชปล. (เสมอ 2 แพ้ 5) ซึ่งมาจากเกมกับซีเอสเคเอ มอสโก ฤดูกาลนี้ (1-0)
- สเปอร์สแพ้รวด 2 เกมชปล. ที่เวมบลีย์ ฤดูกาลนี้ โดยในฤดูกาล 2010-11 พวกเขาชนะทั้ง 3 เกมในรอบแบ่งกลุ่มที่ไวท์ ฮาร์ท เลน
- ซีเอสเคเอยังไม่ชนะในชปล. ฤดูกาลนี้ (เสมอ 3 แพ้ 2) และชนะครั้งเดียวจาก 11 เกมชปล. หลังสุดในบ้าน (เสมอ 5 แพ้ 5) จากเกมกับพีเอสวี เมื่อกันยายน 2015 (3-2)
- ซีเอสเคเอไม่สามารถทำคลีนชีตตลอด 27 เกมหลังสุดชปล. นับตั้งแต่พฤศจิกายน 2011 ที่พบแทร็บซอนสปอร์ (0-0) ความจริงแล้ว อีกอร์ อาคินเฟเยฟ ไม่สามารถทำคลีนชีตได้ใน 38 เกมหลัง เป็นสถิติเสียประตูติดต่อกันนานที่สุดของรายการนี้
- ในเกมเยือน ซีเอสเคเอแพ้ 10 จาก 12 เกมหลังสุดชปล. (ชนะ 1 เสมอ 1) และแพ้รวดในนัดสุดท้ายรอบแบ่งกลุ่ม 3 ครั้งก่อนหน้านี้