"ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด น่าจะมีการปรับทัพพักตัวหลักหลายคนโดยเตรียมส่ง อองโตนี่ มาร์กซิยาล นำแผนกองหน้าล่าตาข่าย เกมบุกถิ่น "นักบุญ" เซาธ์แฮมป์ตัน ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันพุธที่ 17 พ.ค. ศกนี้ ถ่ายทอดสด : บีอิน สปอร์ตส์ 1 (เวลา : 01.45 น.)

ปรีวิวฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันพุธที่ 17 พฤษภาคม 2560

เซาธ์แฮมป์ตัน - แมนฯ ยูไนเต็ด

ถ่ายทอดสด : บีอิน สปอร์ตส์ 1 (เวลา : 01.45 น.)

สนาม : เซนต์ แมรี่ส์ สเตเดี้ยม

        เซาธ์แฮมป์ตัน ของ โคล้ด ปูแอล บุกเชือด มิดเดิ้ลสโบรช์ รองบ๊วย 2-1 เป็นการหยุดสถิติไม่ชนะติดต่อกัน 6 นัดรวด แต่พวกเขาไม่เหลือลุ้นอะไรแล้ว นอกจากการไต่ขึ้นไปจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ดีที่สุดคืออันดับ 8

        สภาพทีมล่าสุด เชน ลอง เจ็บข้อเท้าจากเกมล่าสุด ต้องรอประเมินอาการ แต่คาดว่าจะพร้อมเป็นตัวเลือกตามปกติ

        ส่วนตัวเจ็บที่เหลือในเวลานี้เป็นหน้าเดิม เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ เซนเตอร์ฮาล์ฟ กับ อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่ ประตูมือ 2

        คาดว่า ปูแอล เตรียมเรียกตัวหลักกลับมาเป็นตัวจริงหลังปรับทัพถึง 7 ตำแหน่งในเกมล่าสุด เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ เฝ้าเสาตามปกติ แบ็กโฟร์จัดชุดแกร่ง เซดริก โซอาเรส, แจ็ค สตีเฟ่นส์, มายะ โยชิดะ และ ไรอัน เบอร์ทรานด์

        แดนกลางวาง โอรีโอล โรเมว คุมเกมตามเดิมพร้อมส่ง สตีเว่น เดวิส ลงไปช่วยงาน แผงรุกวาง เจมส์ วอร์ด-พราวส์, ดูซาน ทาดิช และ เนธาน เร้ดมอนด์ สร้างสรรค์เกมรุกข้างหลัง มาโนโล่ กับเบียดินี่ คืนหน้าเป้าตัวจริง ส่วน ชาร์ลี ออสติน ที่เพิ่งสลัดเดี้ยงคัมแบ็กเป็นตัวสำรองในเกมล่าสุด จะสตาร์ตบนม้านั่งสำรองเหมือนเดิม

        แมนฯ ยูไนเต็ด ของ โชเซ่ มูรินโญ่ ออกไปแพ้ สเปอร์ส 1-2 ในเกมอำลา ไวท์ ฮาร์ท เลน เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยรั้งอันดับ 6 หมดสิทธิ์แซงขึ้นไปติดท็อปโฟร์แล้วและไม่มีสิทธิ์หล่นไปต่ำกว่านี้เช่นกัน

        ความพร้อมล่าสุด มารูยาน เฟลไลนี่ พ้นโทษแบน 3 นัดพร้อมกลับมาเป็นตัวเลือกในลีกอีกครั้ง

        อย่างไรก็ดี ปอล ป๊อกบา ได้รับอนุญาตให้พักต่อเนื่องเพื่อไปจัดการเรื่องงานศพคุณพ่อที่เสียชีวิตในวัย 79 ปี เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

        ส่วนแข้งเจ็บไม่มีเพิ่มเติม ซลาตัน อิบราฮิโมวิช (เข่า), มาร์กอส โรโฮ (เข่า), ลุค ชอว์ (เท้า), ทิโมธี โฟซู-เมนซาห์ (ไหล่) และ แอชลี่ย์ ยัง (เอ็นหลังหัวเข่า) พักรักษาตัวต่อไป โดยในรายของ โฟซู-เมนซาห์ ลุ้นกลับมาเป็นตัวเลือกในนัดชิง ยูโรปา ลีก

        มูรินโญ่ เตรียมหมุนเวียนผู้เล่นอีกครั้งเนื่องจากต้องการเก็บนักเตะตัวหลักให้ฟิตสมบูรณ์สำหรับนัดชิงชนะเลิศ ยูโรปา ลีก กับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม วันที่ 24 พ.ค. นี้ โดย ดาเล่ย์ บลินด์ จะได้พักอย่างแน่นอนหลังเป็นตัวจริง 6 จาก 7 เกมหลังสุด

        เซร์คิโอ โรเมโร่ เตรียมเฝ้าประตูเป็นตัวจริง ส่วนอีกนัดน่าจะเป็นโอกาสของ โชเอล เปเรยร่า นายประตูมือ 3 เป็นตัวจริงหลัง มูรินโญ่ ยืนยันว่าจะให้ดาวรุ่งรายนี้ลงเล่นในช่วงก่อนจบฤดูกาลนี้

        แนวรับวางใจ คริส สมอลลิ่ง ยืนเซนเตอร์แบ็กคู่กับ ฟิล โจนส์ เพื่อเป็นการซ้อมใหญ่ก่อนนัดชิงฯ ยูโรปา ลีก แบ็กขวาเรียก อันโตนิโอ วาเลนเซีย ที่ได้พักในเกมล่าสุด กลับมาเป็นตัวจริง ฝั่งซ้ายส่ง มัตเตโอ ดาร์เมี่ยน โดย เดเมทรี่ มิตเชลล์ ดาวรุ่งวัย 20 ปี ลุ้นประเดิมทีมชุดใหญ่

        แดนกลางส่ง อันเดร์ เอร์เรร่า เชื่อมเกมกับ มารูยาน เฟลไลนี่ แผงรุกเลือก ฆวน มาต้า, เฮนริค มคิตาร์ยาน และ อองโตนี่ มาร์กซิยาล ขณะที่หน้าเดี่ยวเรียก มาร์คัส แรชฟอร์ด กลับมาล่าประตูตั้งแต่ต้นเกม

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

        เซาธ์แฮมป์ตัน (4-2-3-1) : เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ - เซดริก โซอาเรส, แจ็ค สตีเฟ่นส์, มายะ โยชิดะ, ไรอัน เบอร์ทรานด์ - สตีเว่น เดวิส, โอริโอล โรเมว - เจมส์ วอร์ด-พราวส์, ดูซาน ทาดิช, เนธาน เร้ดมอนด์ - มาโนโล่ กับเบียดินี่ 

        แมนฯ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา - อันโตนิโอ วาเลนเซีย, คริส สมอลลิ่ง, ฟิล โจนส์, มัตเตโอ ดาร์เมียน - อันเดร์ เอร์เรร่า, มารูยาน เฟลไลนี่ - ฆวน มาต้า, เฮนริค มคิตาร์ยาน, อองโตนี่ มาร์กซิยาล - มาร์คัส แรชฟอร์ด

        ผู้ตัดสิน : โจนาธาน มอสส์

ผลงานการพบกันที่บ้านเซาธ์แฮมป์ตัน
เซาธ์แฮมป์ตันชนะ 17 แมนฯ ยูไนเต็ดชนะ 21 เสมอ 17
ประตูที่ทำได้ : เซาธ์แฮมป์ตัน 68 ลูก แมนฯ ยูไนเต็ด 82 ลูก

- เซาธ์แฮมป์ตันไม่ชนะใน 5 เกมลีกหลังสุดที่เปิดบ้านพบปีศาจแดง โดยความพ่ายแพ้ 4 นัดจากจำนวนดังกล่าว เป็นการแพ้ด้วยสกอร์ห่างแค่ลูกเดียว (เสมอ 1)
- ครั้งล่าสุดที่แมนฯ ยูไนเต็ดแพ้ในเกมพรีเมียร์ลีกที่เยือนเซาธ์แฮมป์ตัน เกิดขึ้นเมื่อสิงหาคม 2003 โดย เจมส์ บีทตี้ ทำประตูเดียวของเกมนั้น
- 4 จาก 5 ประตูหลังสุดของแมนฯ ยูไนเต็ดในการพบเซาธ์แฮมป์ตัน รวมทุกรายการฤดูกาลนี้ได้จาก ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ซึ่งหมดสิทธิ์ลงเล่นในช่วงที่เหลือของซีซั่นไปแล้ว
- มาโนโล่ กับเบียดินี่ เป็นคนทำประตูให้เซาธ์แฮมป์ตันทั้ง 2 ลูกในเกมอีเอฟแอล คัพ นัดชิงชนะเลิศ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ก่อนนักบุญแพ้ 2-3
- แมนฯ ยูไนเต็ด พลิกสถานการณ์จากตามหลังกลับมาเป็นผู้ชนะเซาธ์แฮมป์ตัน 8 ครั้งในพรีเมียร์ลีก (รวมถึงการเจอกันที่นี่ ฤดูกาลที่แล้ว) มากที่สุดที่คู่แข่งทีมเดิมทำได้เหนือคู่แข่งทีมเดิมในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก
- เซาธ์แฮมป์ตันยิงไม่ได้ 3 เกมลีกหลังสุดในบ้าน คิดเป็น 4 ชั่วโมง 35 นาที แต่ไม่เคยยิงไม่ได้ในบ้าน ลีกสูงสุด ติดต่อกัน 4 นัดมาก่อน
- แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่แพ้ 3 เกมลีกติต่อกัน (หรือภายในเดือนเดียว) นับตั้งแต่ธันวาคม 2015 ในยุค หลยส์ ฟาน กัล
- ทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ ได้แต้มนอกบ้านฤดูกาลนี้ (34 แต้ม, 18 นัด) มากกว่าที่ทำได้ในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด (31 แต้ม, 18 นัด)
- แม้เซาธ์แฮมป์ตันนชนะในเกมที่เหลือ แต้มสูงสุดที่เป็นไปได้คือ 51 คะแนน ซึ่งน้อยกว่าฤดูกาล 2015-16 (63), 2014-15 (60) และ 2013-14 (56)
- แมนฯ ยูไนเต็ด (ชนะ 17) ต้องการชัยชนะในอีก 2 นัดที่เหลือของฤดูกาล เพื่อหลีกเลี่ยงผลงานชนะน้อยที่สุดภายในหนึ่งฤดูกาลของตัวเอง โดยพวกเขาชนะ 19 นัด ทั้งในฤดูกาล 2013-14 และ  2015-16

ผลการพบกันเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา (บ้านเซาธ์แฮมป์ตัน)
เซาธ์แฮมป์ตัน แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-3
20 กันยายน 2015 ผู้ตัดสิน : มาร์ค แคลทเท่นเบิร์ก
ผู้ทำประตู : 1-0 กราเซียโน่ เปลเล่ น.13, 1-1 อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล น.34, 1-2 อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล น.50, 1-3 ฆวน มาต้า น.68, 2-3 กราเซียโน่ เปลเล่ น.86