ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ฟุตบอลไทย » ภาค7ลงพื้นที่เร่งปิดคดีหมูป่า,หนุ่มปืนดุมอบตัว,เผยชื่ออีก4

ภาค7ลงพื้นที่เร่งปิดคดีหมูป่า,หนุ่มปืนดุมอบตัว,เผยชื่ออีก4

Posted 28/12/2010 by siamsport

 

 

       "บิ๊กสีกากี" ภาค 7 เอาจริงลงตรวจที่เกิดเหตุแฟน "หมูป่าเขี้ยวตัน" นครปฐม เอฟซี ไล่ตะลุมบอนผู้ตัดสิน และ แฟนบอล ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี ในศึกเพลย์ออฟเลื่อนชั้นไทยลีกได้ผล หลังมือควงปืนในสนามโร่มอบตัว อ้างเจตนาเพื่อป้องกันตัวเอง เนื่องจากเห็นมีแฟนบอลกรูกันลงไปเต็มสนาม ไม่ได้คิดทำร้ายใคร คาดเจอข้อหาหนัก เนื่องจากพกปืนในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนตำรวจโชว์ผลงานต่อเนื่องรู้ตัวผู้กระทำผิดชัดเจนเพิ่มอีก 4 ราย

     จากเหตุการณ์กลุ่มสตาฟฟ์โค้ช และแฟนบอล "หมูป่าเขี้ยวตัน" นครปฐม เอฟซี ไล่ตะลุมบอนผู้ตัดสิน และ แฟนบอล ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี ในศึกลูกหนังเพลย์ออฟเลื่อนชั้นสู่ "สปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีก 2011" เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. ที่ผ่านมา ที่ สนาม ม.เกษตรศาสตร์ กำแพงแสน จ.นครปฐม หลังจบเกมเสมอกัน 0-0
 
     ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. ที่ผ่านมา นายไชยา สะสมทรัพย์ ประธานสโมสรนครปฐม เอฟซี ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ในรายการ "เช้าข่าวข้น คนข่าวเช้า" ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี ออกอากาศช่วงเวลา 07.30 น. ว่า
 
     "จากเหตุการณ์ที่ผ่านมา สภาพจิตใจของตนไม่ดีเลย ใจจริงอยากที่จะยุบทีมให้รู้แล้วรู้รอดไป ส่วนตัวเองจะลาออกจากประธานสโมสร ไม่ยุ่งเกี่ยวกับวงการลูกหนังอีกต่อไป แต่ลึกๆ แล้วยังอยากจะช่วยบริหารทีมบ้านเกิดต่อไป เพราะสงสารแฟนบอลส่วนใหญ่ ที่เขารักที่จะเชียร์ทีมด้วยความจริงใจ"

    

เปิดบ้านรับสื่อแต่ไม่ให้สัมภาษณ์

       ขณะเดียวกันในช่วงเวลา 10.00 น. เดิมทีทาง นายไชยา สะสมทรัพย์ ประธานสโมสร นครปฐม เอฟซี ได้นัดให้ผู้สื่อข่าว นสพ.สยามกีฬารายวัน, สยามกีฬาทีวี, ฟุตบอลสยามทีวี และผู้สื่อข่าวท้องถิ่น เดินทางไปสัมภาษณ์ถึงบ้านพัก ย่านตัวเมือง จ.นครปฐม
 
     แต่พอจะถึงเวลา นายใหญ่ "หมูป่าเขี้ยวตัน" กลับปลีกตัวเข้าไปอยู่ในบ้าน พร้อมบอกกับคนสนิทว่า สภาพจิตใจไม่พร้อมให้สัมภาษณ์ในเวลานี้ ขณะเดียวกัน ยังบอกคนใกล้ตัวว่า ในส่วนของ นครปฐม เอฟซี จะมีการจัดงานแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกที
 
     นอกจากนั้น ประธานสโมสร นครปฐม ยังฝากบอกอีกว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ ต้องขอโทษแฟนบอลศรีสะเกษด้วย ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุร้ายอย่างนี้ ก่อนเกม แฟนบอลทั้งสองทีมยังจับไม้จับมืออย่างเป็นมิตร เหนือสิ่งอื่นใด ตนรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก"
 
     ขณะเดียวกันสยามกีฬา ยังได้รับข่าววงในที่เชื่อถือได้ว่าเวลานี้ ไชยา สะสมทรัพย์ ได้เดินทางไปพักผ่อนต่างประเทศ เนื่องจากสภาพจิตใจยังย่ำแย่ กับเหตุการณ์ดังกล่าวในเวลานี้

ภูธรภาค 7 เอาจริงเร่งปิดคดีเครียด

     ในส่วนคดีความคืบหน้าล่าสุดภายหลังจากที่ "บิ๊กน้อย" พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ "บิ๊กย้อย" พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมทั้งเป็นประธานพิจารณาตัดสินโทษและข้อประท้วง ของสมาคมฟุตบอลฯ ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่รับผิดชอบ สภ.กำแพงแสน เร่งดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดในเหตุการณ์ดังกล่าว
 
     ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. ทาง พล.ต.ท.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7 ได้ลงพื้นที่ประชุมหารือกับ พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7 (ปป. 1)
 
     โดยได้แต่งตั้งให้ พล.ต.ต.พศิน นกสกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.นครปฐม เป็นประธานรับผิดชอบคดี ร่วมด้วย พ.ต.อ. ประเสริฐ ศิริพรรณาภิรัตน์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรกำแพงแสน เจ้าของพื้นที่ และ พ.ต.อ. วีระพล สุกลมีฤทธิ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.นครปฐม เป็นหัวหน้าชุดสอบสวน โดยได้ประชุมหารือพร้อมกับดูภาพเหตุการณ์ประกอบพิจารณาคดีกว่า 2 ชั่วโมงจึงเสร็จสิ้น

ออกตรวจพื้นที่ หาหลักฐานประกอบ

       หลังจากนั้นในเวลา 12.00 น. พล.ต.ท.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7 พร้อมทั้ง พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7, พล.ต.ต.พศิน นกสกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.นครปฐม, พ.ต.อ. ประเสริฐ  ศิริพรรณาภิรัตน์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรกำแพงแสน และ พ.ต.อ.วีระพล สุกลมีฤทธิ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.นครปฐม ได้ออกตรวจสถานที่เกิดเหตุที่สนามฟุตบอล ม.เกษตรศาสตร์ กำแพงแสน
 
     ผู้สื่อข่าวสยามกีฬา ได้รับการเปิดเผยจาก พล.ต.ต.พศิน นกสกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.นครปฐม ถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ดูจากร่องรอยของที่เกิดเหตุแล้วสามารถสรุปได้ 3 จุด คือ
 
     จุดที่ 1 เขตวงกลมกลางสนาม ซึ่งเป็นการเข้าไปทำร้ายผู้ตัดสิน ซึ่งชัดเจนแน่นอนว่า เราเห็นคนกระทำผิดหมดจากเทปบันทึกภาพ จุดที่ 2 เขตกองเชียร์ของแฟนบอลศรีสะเกษ ที่มีการชกต่อยกัน ตรงจุดนี้ เราจะพิจารณาหากว่าฝ่ายไหนเริ่มก่อน เราถือว่าเป็นคนผิด และจุดที่ 3 บริเวณนอกรั้ว ซึ่งมีการทำลายข้าวของและรถยนต์ของแฟนบอลศรีสะเกษ   

รู้ตัวผู้กระทำผิดชัดเจนอีก 4 ราย

       นอกจากนั้น พล.ต.ต.พศิน นกสกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.นครปฐม กล่าวเสริมอีกว่า เบื้องต้นเรารู้ตัวผู้กระทำความผิดชัดเจนแล้ว 4 ราย ได้ออกหมายเรียกให้มามอบตัวทุกราย ดูจากเหตุการณ์แล้วพิจารณาคดีได้ 2 กรณี คือ
 
     ประเด็นแรก เฉพาะเหตุทำร้ายร่างกายของผู้ตัดสินเป็นหลัก ตามหลักกฎหมายคือ ติดคุก 2 ปี ปรับ 20,000 บาท พร้อมกับพกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะ ถ้ามีใบอนุญาต ติดคุก 5 ปี ส่วนถ้าไม่มีใบอนุญาติพกพา ติดคุก 10 ปี ปรับ 20,000 บาท ส่วนประเด็นต่อมาคือ การทำร้ายร่างกาย พร้อมกับมีการทุบรถของแฟนบอลศรีสะเกษ จะมีการพิจารณาโทษตามกฎหมายเป็นลำดับขั้นตอนไป

ตร.ให้มามอบตัว ยันไม่ใช่คดีร้ายแรง

      ขณะเดียวกัน ได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.อ.ประเสริฐ ศิริพรรณาภิรัตน์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรกำแพงแสน ว่า ในส่วนของผู้กระทำผิดตน อยากจะให้ผู้กระทำผิดได้มามอบตัว เพราะว่าคดีนี้ถือว่าไม่ใช่คดีร้ายแรงอะไร เป็นเพียงแค่การทำร้ายร่างกายเท่านั้น ขณะเดียวกัน ถ้าผู้เสียหายรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลไม่ถึง 7 วัน น่าจะแค่เสียค่าปรับแล้วปล่อยตัว ออกมายอมรับแบบลูกผู้ชายดีกว่าตกเป็นจำเลยของสังคม    

ตร.เปิดเผยชื่อคนร้ายก่อเหตุ

      ขณะที่ พ.ต.ท.สานิต ชินจอหอ รอง ผกก.สส.สภ.กำแพงแสน ได้อาศัยเทปจากสื่อมวลชนต่างๆ ที่ได้รับ พร้อมเปิดกลางที่ประชุมเพื่อให้ "เปาอ้น" อภิสิทธิ์ อ้นรักษ์ ได้ชี้ตัวคนร้าย ก่อนจะเปิดเผยภายหลังว่า ตอนนี้ได้ทราบชื่อคนร้าย 4 คน
 
      ประกอบด้วย นายจิ๊บ, นาย "เอก" พีระ วิจิตร (เสื้อสีดำต่อยหลัง อภิสิทธิ์ อ้นรักษ์), นายเปิ้ล สมอร์รูม (เสื้อฟุตบอลแมนฯ ยูฯ หมายเลข 14 สกรีนชื่อ CHICHARITO) และ นายจุ๋ม "ภาคิน" (เสื้อสีแดงเอาของแข็งฟาดบริเวณศีรษะของ อภิสิทธิ์ อ้นรักษ์) ทั้งหมดจะออกหมายเรียก หากไม่มาจะเรียกอีกครั้ง หากไม่มาอีกก็จะออกหมายจับ
 
     อย่างไรก็ดีหลังจากที่ พ.ต.ท.สานิต ชินจอหอ ได้ดูวิดีโอเทปพร้อมกับ อภิสิทธิ์ อ้นรักษ์ และผู้ตัดสินรายอื่นๆ ปรากฏว่ามีผู้ต้องหาอีกมาก ที่ทำร้ายร่างกาย "เปาอ้น" โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะสืบหาชื่อ เพื่อออกหมายเรียกต่อไป    

ยันทำตามหน้าที่ตรงไปตรงมา

       นอกจากนั้น พ.ต.ท.สานิต ชินจอหอ รอง ผกก.สส.สภ.กำแพงแสน เปิดเผยถึงการทำหน้าที่ของตนเองว่า จะให้ความยุติธรรมกับผู้เสียหายอย่างแน่นอน และไม่สนว่า ผู้กระทำผิดจะใหญ่โตมากจากไหน ทุกอย่างมีกระบวนการ "ขั้นตอนหลังจากนี้ กำลังรวบรวมหลักฐานและพยาน ซึ่งจะว่ากันไปเป็นชอตๆ ว่ามีใครทำอะไรบ้าง และมีความผิดข้อหาอะไร โดยจะให้ผู้เสียหายยืนยัน ก่อนจะหาข้อมูลและออกหมายเรียกเพื่อให้ผู้เสียหายชี้ตัวต่อไป"    

หนุ่มปืนดุมอบตัวปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

       หลังจากนั้นในเวลา 14.00 น. พ.จ.อ.นพพร ศิริรังษี "จ่าอากาศปืนดุ" ที่ภาพถ่ายของสื่อมวลชนทุกสำนัก จับภาพได้ว่าชักปืนมาขู่ อภิสิทธิ์ อ้นรักษ์ ในช่วงชุลมุลในเหตุการณ์แฟนบอลไล่ตะลุมบอนกันในสนาม ได้โผล่มอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
 
     โดยมี พล.อ.ต. ศิวเกียรติ ชะเยมะ ผู้บังคับบัญชาการกองบินกำแพงแสน ได้อำนวยความสะดวกให้มามอบตัว พร้อมกับให้ปากคำกับ พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7 และเปิดเผยกับสื่อมวชชนว่า ตนไม่ได้ชักปืนขึ้นมายิงแต่อย่างใด เสียงดังที่คล้ายปืนมันคือพลุ ซึ่งแฟนบอลจุดกันข้างสนาม
 
     ขณะเดียวกันสาเหตุที่ต้องชักปืน ก็เพราะว่าช่วงนั้นแฟนบอลกรูกันจะเข้ามามาก ตนเกรงว่าจะเกิดอันตรายขึ้นกับตัวเอง จึงได้ชักปืนมาขู่ ไม่ได้มีเจตนาที่จะทำร้ายใครทั้งนั้น เมื่อเห็นภาพจากสื่อมวลชนทุกสำนัก จึงได้ออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ แต่เบื้องต้นยังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และไม่ขอให้การในชั้นพนักงานสอบสวน แต่จะไปให้การในชั้นศาลแทน ขณะที่พนักงานสอบสวนปล่อยตัวชั่วคราวโดยไม่ต้องประกันตัว เนื่องจากมาพบตำรวจด้วยตัวเอง    

"เปาอ้น" ยันทำหน้าที่ต่อพร้อมไปนครปฐม

     ส่วนที่ สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. พ.ต.ท.สานิต ชินจอหอ รอง ผกก.สส.สภ.กำแพงแสน เจ้าของคดี กับ ร.ต.ท.คงเทพ บุญนาค พงส (สบ1) สภ.กำแพงแสน ได้เดินทางมาเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม "เปาอ้น" อภิสิทธิ์ อ้นรักษ์, สุรพล สว่างจิตต์, สุเมธ สายแวว, พรไพรัช โพยกระโทก, โสภณ มหาบุญ และ น.อ.หิรัญ คงเทียม ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
 
     โดย "เปาอ้น" ในฐานะที่เป็นผู้เสียหาย เปิดเผยว่า รู้สึกสบายใจ ที่ตอนนี้คดีกำลังคืบหน้า จากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาสอบปากคำเพิ่มเติม และเพิ่งทราบว่ามีผู้ต้องสงสัยมามอบตัวแล้ว 1 คนทำให้รู้สึกดีมากขึ้น
 
     "เปาอ้น" กล่าวต่ออีกว่า ส่วนตัวแล้วยังมีกำลังใจทำงานอยู่ร้อยเปอร์เซ็นต์ แม้ว่าช่วงแรกจะตกใจไปบ้าง แต่ยังขอยืนยันว่ายังรักฟุตบอล และต้องการทำหน้าที่ผู้ตัดสินต่อไป โดยครอบครัวก็สนับสนุนและน้อมรับการตัดสินใจของผม ส่วนการไปทำหน้าที่ที่ นครปฐม หากบทลงโทษจากทางสมาคมที่มีต่อ นครปฐม ออกมาสมเหตุสมผล ก็พร้อมจะไปทำหน้าที่ ที่นั่นเหมือนเดิม"    

"เปาไทย" แบนทีพีแอล ถ้าผลตัดสินจิ๊บจ๊อย

       ในส่วนของ อ.ชูชัย บัวบูชา ประธานคณะกรรมการผู้ตัดสิน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทางสมาคมผู้ตัดสิน ได้จัดกิจกรรมพบปะกัน ระหว่างผู้ตัดสินทุกระดับชั้น ขณะเดียวกันตนยังได้ให้ทุกคนเสนอข้อคิดเห็นเกี่ยวกับความปลอดภัยในชีวิตการทำหน้าที่ในสนามฟุตบอล
 
     เพราะว่าในกรณีที่ผ่านมาระหว่าง นครปฐม เอฟซี กับ ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี นั้นพวกเรารู้สึกสลดหดหู่มาก กับการที่ผู้ตัดสินโดนทำร้าย หลายคนให้เหตุผลว่า หากผลการตัดสินของ บริษัทไทยพรีเมียร์ลีก ออกมา แล้ว ผู้กระทำผิดรวมทั้งทีม นครปฐม เอฟซี ได้รับการลงโทษแบบจิ๊บจ๊อย พวกเราขอ บอยคอต บริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด จะรวมพลังกันไม่ตัดสินฟุตบอลภายในประเทศทุกรายการ    

ดร.วิชิตขอดูเทปตัดสินเอง

       ด้าน ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธาน บ.ไทยพรีเมียร์ลีก ผู้เกี่ยวข้องในการรับผิดชอบ ไทยลีก และ ดิวิชั่น 1 โดยตรง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับการพิจารณาบทลงโทษว่า วันอังคารที่ 28 ธ.ค. นี้ จะประชุมถึงเหตุการณ์ดังกล่าว และจะตัดสินจากรายงานของผู้ควบคุมการแข่งขัน, วิดีโอเทปของสื่อมวลชนรวมถึงภาพถ่ายต่างๆ
 
     โดยที่ยังไม่มีการเรียกคู่กรณีทั้ง นครปฐม หรือ ศรีสะเกษ มาชี้แจงใดๆ ทั้งสิ้น ตนจะรีบสรุปเรื่องและเสนอให้กับ พล.ต.ท.วรพงษ์  ชิวปรีชา ประธานคณะกรรมการพิจารณามารยาทวินัยและข้อประท้วง พิจารณาโทษต่อไป
 
     ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม ดร.ลูกหนัง เกี่ยวกับการไม่เรียกคู่กรณีมาชี้แจงหรืออธิบาย ซึ่ง ดร.วิชิต กล่าวว่า ขั้นตอนของการชี้แจงของทั้งสองสโมสรจะเกิดขึ้น กลังจากมีบทลงโทษแล้ว นั่นคือการอุทธรณ์ ซึ่งทุกฝ่ายมีสิทธิ์ตามกฎข้อบังคับ    

ชี้เป็นไปได้ทั้งปรับ, แบน, ตัดสิทธิ์

      นอกจากนั้น ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ได้เผยถึงโทษของเหตุการณ์ดังกล่าว โดยเฉพาะ นครปฐม ที่ถือเป็นเจ้าบ้าน และจากภาพแสดงชัดเจนว่า เป็นฝ่ายกระทำ ซึ่งบทลงโทษมีความไปได้ทั้งการปรับเงินตั้งแต่ หรือแม้แต่ห้ามทำการแข่งขันในบ้าน
 
     และถามว่ามีโอกาสที่จะตัดสิทธิ์ทีม นครปฐม ออกจากการแข่งขันทุกรายการของทางสมาคมฟุตบอลฯ จัดขึ้นหรือไม่ ถือว่าเป็นไปได้ด้วยกันทั้งนั้น ทั้งนี้อยู่ที่การพิจารณาโทษของ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ประธานคณะกรรมการพิจารณามารยาทวินัยและข้อประท้วง ว่าจะออกมาอย่างไร
 
     นอกจากนั้น ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง เผยถึงการตัดสินเหตุการณ์ดังกล่าวเผยว่า จะอาศัยจากภาพทั้งเคลื่อนไหวและภาพนิ่ง ถือเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญในการออกบทลงโทษ ซึ่งจากที่ดูถือว่าทุกอย่างไม่น่ามีคำอธิบายอะไรมาก เหมือนคนขับรถฝ่าไฟแดง ก็คงไม่ต้องมีอะไรมาแก้ตัว เพราะหลักฐานชัดเจน    

แฟนบอล "หมูป่า" ขอโทษ, วอนไชยาอยู่ต่อ

       ต่อจากนั้นในช่วงเวลา 17.45 น. แฟนบอลบางส่วนของ นครปฐม เอฟซี ได้เดินทางไปออกรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ ช่วง "สรยุทธ เจาะข่าวเด่น" ที่อาคารมาลีนนท์ ถนนพระราม 4 เพื่อเข้าไปชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่อื้อฉาว ในแมตช์เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. ที่ผ่านมา
 
     โดย ธนพนธ์ วงศ์โสภา ประธานแฟนคลับ "หมูป่าเขี้ยวตัน" ได้ตอบต่อข้อสงสัยของ สรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรชื่อดัง ในคำถามที่มีข่าวออกไปว่า ช่วงเช้ากลุ่มแฟนบอลได้เดินทางเข้าไปหา ไชยา สะสมทรัพย์ ประธานสโมสร นครปฐม เอฟซี ที่บ้านพัก เพื่อยับยั้งการลาออกจากตำแหน่งจริงหรือไม่
 
     เจ้าตัวตอบว่า ทุกอย่างเป็นเรื่องจริง เนื่องจากท่านเปรียบเสมือนเป็นแม่เหล็กของแฟนคลับ และเมื่อเรารู้ข่าวดังกล่าว จึงเดินทางไปพบท่านที่บ้านในช่วงเช้า เพราะทุกคนไม่ต้องการที่จะเห็นเขาลาออก
 
     นอกจากนั้นประธานคนดังกล่าว ยังได้เล่าจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์นี้ว่า ในวันแข่งขันเราได้แบ่งอัฒจันทร์ออกเป็น 2 โซน โดยที่แฟนบอลทีมเหย้าจะนั่งอยู่ทางซ้าย ส่วนทีมเยือนจะอยู่ทางขวา แต่ด้วยความที่กองเชียร์ของศรีสะเกษ มาเยอะจนอัฒจันทร์ไม่สามารถรับรองที่นั่งได้เพียงพอ เราจึงได้จัดให้พวกเขาย้ายไปฝั่งตรงข้ามให้หมด ทำให้เหล่ากองเชียร์พลัดถิ่นได้เข้ามานั่งอัฒจันทร์ฝั่งนั้น
 
     จากนั้นพีธีกรชื่อดังแห่งวิก 3 พระราม 4 ได้ขอให้แฟนบอลของ นครปฐม เอฟซี ช่วยขยายความคำว่า "กองเชียร์พลัดถิ่น" ให้กระจ่าง "กองเชียร์พวกนี้มักจะไม่มีทีมใดที่ติดตามเชียร์ และในวันนั้นพวกเขาผ่านมาที่นครปฐม แต่กลับมีอารมณ์ร่วมกับเกม เพราะแมตช์นั้นต้องยอมรับว่าเป็นเกมที่กดดัน ซึ่งมีผลต่อการขึ้นไปเล่นในไทยพรีเมียร์ลีกซีซั่นหน้า"    

กองเชียร์ยันไม่รู้จักหนุ่มควงปืน

       ต่อข้อซักถามของ สรยุทธ สุทัศนะจินดา ได้ถามว่าทำไมถึงได้ไปทำร้าย "เปาอ้น" อภิสิทธิ์ อ้นรักษ์ ผู้ตัดสินในนัดดังกล่าว อย่างที่บอกนัดนั้นเป็นเกมชี้ชะตา และจุดเปลี่ยนอยู่ที่กรรมการให้ใบแดงที่ 2 คิดว่าไม่มีความเป็นธรรม อีกทั้งหลังจบเกมมีภาพที่ออกมา คือผู้ตัดสินวิ่งเข้าไปหาแฟนบอลของศรีสะเกษ แต่กองเชียร์ดังกล่าวขว้างปาสิ่งของมาก่อน ทำให้มีการเริ่มปะทะแรงขึ้น
 
     อีกทั้งพิธีกรที่ชื่อดัง "วิกสามพระราม 4" ถามถึงภาพที่ออกมา ซึ่งเหมือนกับว่า ไชยา สะสมทรัพย์ ประธานสโมสร นครปฐม เอฟซี นำทัพลงไปในสนาม โดยที่เดินเข้าไปพูดกับผู้ตัดสิน แล้วมีชายฉกรรจ์เสื้อขาวถือวิทยุสื่อสาร จากนั้นก็ทุบใส่ผู้ตัดสินโดยทันที
 
     โดยกลุ่มแฟนคลับเผยว่า ตนเองไม่เคยรู้จักกับผู้ชายคนนั้นมาก่อน และในวันที่พวกตนไปบ้านของท่าน ไชยา ไม่เคยพบเห็นเจ้าตัวอยู่ในบ้าน ซึ่งคงบอกไม่ได้ว่าเขาเป็นใคร และอยู่ในตำแหน่งไหนของสโมสร นครปฐม เอฟซี    

แฟนนครปฐมขอความเป็นธรรมจาก "ทีพีแอล"

       สุดท้ายพิธีกรแห่งรายการ "สรยุทธ เจาะข่าวเด่น" ได้ถามว่าหาก ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ปธ.บ.ไทยพรีเมียร์ลีก ตัดสินถึงขั้นให้ทีม "หมูป่าเขี้ยวตัน" ต้องถูกยุบทีม กลุ่มแฟนคลับจะทำอย่างไรต่อไป "อย่างแรกพวกเขาต้องขอโทษแฟนบอลของศรีสะเกษ และชาวไทยทุกคน เนื่องจากทุกอย่างมันคืออุบัติเหตุบางอารมณ์ อีกทั้งเราไม่อยากให้ภาพนี้เกิดขึ้นอีกแล้ว"
 
     "ทว่าถ้าทีม นครปฐม เอฟซี โดนยุบจริง จะไม่เชียร์สโมสรใดอย่างแน่นอน และคิดว่ามันจะเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เนื่องจากที่ผ่านมากระแสของฟุตบอลในจังหวัด กำลังเดินมาอย่างถูกทิศทาง"    

สมาคมพร้อมดูแลค่ารักษาพยาบาล

       สำหรับในเรื่องที่ "เปาอ้น" อภิสิทธิ์ อ้นรักษ์ ผู้ตัดสินที่ลงทำหน้าที่ในเกมระหว่าง นครปฐม เอฟซี พบ ศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี ในเกมเพลย์ออฟเพื่อหาทีมขึ้นสู่ไทยลีก และโดนรุมทำร้ายหลังจากเกมการแข่งขันเสร็จสิ้น และได้ไปรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลและสำรองจ่ายเองไปก่อนนั้น
 
     ด้าน "บิ๊กเปี๊ยก" นายองอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลฯ เปิดเผยว่า โดยในเรื่องนี้ที่ทางด้านของ คุณอภิสิทธิ์ อ้นรักษ์ ได้ถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บและต้องไปรักษาตัวนั้น และทางด้านเจ้าตัวได้สำรองจ่ายเองไปก่อนทางด้านของ สมาคมฟุตบอลฯ จะรับผิดชอบในเรื่อง ของค่ารักษาพยาบาลตรงจุดนี้อย่างแน่นอน นอกจากนั้นเรายังต้องดูแลเค้าต่อไปอีกและในเรื่องของคดีความตอนนี้ทางตำรวจก็ได้เข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิดแล้ว คาดว่าจะได้ตัวคนผิดมาในไม่ช้า    

"บิ๊กเปี๊ยก" ชี้แมตช์กดดันอยากย้ายสนามแจ้งมา

       นอกจากนั้น "บิ๊กเปี๊ยก" องอาจ ก่อสินค้า ได้กล่าวถึงเรื่องของแมตช์ที่มีความกดดันมากๆ และเกรงว่าอาจจะเกิดความไม่ปลอดภัยหากอยากจะโยกไปแข่งสนามกลางสามารถทำได้แต่ให้ทั้ง 2 ทีมตกลงกันก่อน และแจ้งมายังสมาคมฟุตบอลฯ อีกที
 
     "จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาทีมที่เป็นเจ้าบ้านมักจะก่อเรื่องและมีปัญหาเรื่อยมา หากว่าเป็นเกมที่มีความกดดันมากๆ และมีความสำคัญ ตรงนี้ผมเห็นนะว่าบางทีมันอาจจะกดดันจริงๆ แต่หากว่าทีมมีความประสงค์ที่จะขอย้ายไปแข่งสนามกลางก็ได้แต่ว่าทั้ง 2 ทีมต้องตกลงรายละเอียดกันให้เรียบร้อยก่อน และแจ้งมายังทางสมาคมฟุตบอลอีกที แล้วเราน่าจะดูแลกันได้"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • ถกก่อนชิงชปล.ไร้ปัญหา,ห้ามแอลกอฮอล์-อาวุธทุกชนิด
    ประชุมก่อนการแข่งรอบชิง ชปล. ไร้ปัญหา คู่ชิงที่ 3 หากในเวลาเสมอ ยิงจุดโทษตัดสินทันที ส่วนคู่ชิงจะต่อเวลาพิเศษ ถ้าไม่มีผล ก็จะดวลลูกโทษชี้ขาด แชมป์รับ 1 ล้านบาท รองแชมป์รับ 5 แสนบาท ฝั่ง พ.ต.ท.ดิสดนัย ภูริปโชติ รองผู้กำกับการป้องกันและปราบปราม สน.ปทุมวัน ลั่นห้ามเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดเข้า พร้อมประสานร้านค้าในละแวกห้ามจำหน่าย หากฝ่าฝืนมีโทษ และใครพกพาอาวุธเข้าโดยไม่มีใบอนุญาตโดนจับแน่นอน
  • กูปรีเปิดคัดนักเตะดาวรุ่งลุยไทยลีก 2-3มกราคม
    วันที่ 2 - 3 มกราคม 2554 สโมสรศรีสะเกษ เมืองไทย เอฟซี จะมีการเปิดทดสอบฝีเท้านักเตะเพื่อหาผู้เล่นฝีเท้าดีไว้ใช้งานในฤดูกาล 2011 โดยผู้ที่ร่วมทดสอบต้องมีอายุระหว่าง 17 - 21 ปี
  • แฟนมังกรไฟรอเฮไบรอันโวกลับมาเจ๋งแน่
    แฟนทีม "มังกรไฟ" บีอีซี เทโรศาสน รอเฮ ไบรอัน แอล มาร์คา ประธานสโมสร พร้อมกลับมาลุยลูกหนังแบบเต็มตัว ชนิดทุ่มสุดตัวอีกครั้ง หวังพาทีมกลับมายิ่งใหญ่เหมือนยุคอดีตที่เคยได้แชมป์ไทยลีก 2 สมัยติดต่อกันมาแล้ว เผยงบทำทีมปีหน้าไม่น้อยกว่า 60 ล้านบาท แน่นอน
  • แข้งราชนาวีส่อแห้วยังย้ายทีมไม่ได้
    บรรดาแข้งฝีเท้าดีของทีม "ม้านิลมังกร" ราชนาวี ระยอง ที่จะย้ายไปซบทีมอื่น อาจจะเป็นหมัน เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เนื่องจากทุกคน ยังเป็นข้าราชการทหารเรือ หากจะย้าย ด้วยการลาออกจริง ก็มีอีกหลายขั้นตอน โดยทีมได้แสดงท่าทีปักหลักเล่นที่ จ.ระยอง พร้อมใช้ชื่อเดิมต่อไป

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »