ฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ

(นัดเปิดฤดูกาล 2015-2016)
วันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม 2558
แมนฯ ยูไนเต็ด  1-0  สเปอร์ส

สนาม : โอลด์ แทรฟฟอร์ด

         หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือ ปีศาจแดง ส่ง เซร์คิโอ โรเมโร่ มือกาวอาร์เจนไตน์ประเดิมสนาม พร้อมดร็อป ดาบิด เด เคอา ที่สมาธิไม่นิ่งจากการเป็นข่าวกับ เรอัล มาดริด ส่วนแข้งใหม่อย่าง มัตเตโอ ดาร์เมี่ยน, มอร์กกาน ชไนเดอร์ลิน กับ เมมฟิส เดปาย ก็ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเช่นกัน ทว่า บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ เป็นแค่สำรอง

         ด้าน เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ นายใหญ่ ไก่เดือยทอง ยังไร้โกลมือหนึ่ง อูโก้ โยริส ที่ไม่ฟิตพอ แต่แแกนหลักรายอื่นๆ อยู่พร้อมหน้า นำโดยกองหน้าตัวเก่ง แฮร์รี่ เคน ที่กำลังตกเป็นข่าวกับ แมนฯ ยูไนเต็ด

          เปิดฉากได้แค่ห้านาที สเปอร์ส เกือบช็อกแฟนเจ้าบ้าน เมื่อ เคน งัดบอลให้ คริสเตียน เอริกเซ่น หลุดเข้าไปกระดกข้ามตัว โรเมโร่ แต่ไปตกบนคานหวุดหวิด

           ทีมเยือนครองบอลได้เหนือกว่าชัดเจน และเป็นฝ่ายกดดัน ปีศาจแดง ได้ต่อเนื่อง นาทีที่ 18 โรเมโร่ ต้องออกมาบล็อกลูกยิงของนักเตะ สเปอร์ส ที่หลุดขึ้นมาในกรอบเขตโทษด้านขวาอีก

           อย่างไรก็ตาม กลายเป็นเจ้าบ้านที่บุกน้อยกว่าออกนำ 1-0 จากจังหวะที่ เดปาย ตัดบอลได้ตรงกลางสนาม ก่อนออกทางขวาให้ แอชลี่ย์  ยัง ป้ายเข้ากลางถึง เวย์น รูนี่ย์ ที่จับหนึ่งจังหวะ ก่อนที่ ไคล์ วอล์คเกอร์ แบ๊กขวาทีมเยือนวิ่งเข้ามาพยายามสกัดทิ้ง ทว่ากลายเป็นจิ้มลูกเข้าประตูตัวเองไปในนาทีที่ 22

         หลังได้ประตู แมนฯ ยูไนเต็ด เดินหน้าลุยด้วยความมั่นใจ เดปาย ไหลให้ ยัง ยิงติดบล็อกอย่างน่าเสียดาย ก่อนที่ ฆวน มาต้า จะได้ส่องฟรีคิกนาทีที่ 27 ไม่ผ่านกำแพง

         สเปอร์ส ดูช็อตไปดื้อๆ หลังเสียประตูแบบไม่คาดฝัน นาทีที่ 36 รูนี่ย์ ตัดบอลได้แล้วแทงออกขวาให้ มาต้า เติมขึ้นมาล็อคเข้าในก่อนสับไกถากเสาไป จบครึ่งแรก แมนฯ ยูไนเต็ด นำ 1-0

         กลับมาเล่นครึ่งหลัง สเปอร์ส พยายามเร่งเครื่อง แต่หวิดโดนในนาทีที่ 50 เมื่อ เดปาย โชว์สเต็ปล็อคหลบแล้วส่องด้วยซ้ายนอกกรอบ ทว่าลูกพุ่งหลุดกรอบไป ก่อนที่ทีมเยือนจะเปลี่ยนตัวส่ง ไรอัน เมสัน แทน นาบิล เบนทาเล็บ นาทีที่ 54

         ครบหนึ่งชั่วโมง แฟนผีใน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ลุกขึ้นปรบมือต้อนรับ ชไวน์สไตเกอร์ มิดฟิลด์ทีมชาติเยอรมันที่ถูกส่งลงแทน คาร์ริค จากนั้น นาทีที่ 65 ยัง ได้บอลในกรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนแตะหาจังหวะสับไกเรียดไปติด ฟอร์ม อย่างน่าเสียดาย

         เข้าสู่นาทีที่ 68 ฟาน กัล เปลี่ยนอีกคนโดยส่ง อันเดร เอร์เรร่า ลงแทน เดปาย ขณะที่ทีมเยือนให้ เอริก ลาเมล่า เสริมเกมรุกแทน มุสซ่า เด็มเบเล่ ก่อนที่ ชไวน์สไตเกอร์ จะโดนใบเหลืองจากการไปเตะ นาเซอร์ ชาดลี่

         ดาร์เมียน แบ๊กขวาทีมชาติอิตาลี เติมขึ้นทางขวาก่อนเปิดเข้ากลางให้ รูนี่ย์ กระโดดฟาด แต่โดนเหลี่ยมไม่ดี จากนั้น นาทีที่ 76 ไก่เดือยทอง เปลี่ยนคนสุดท้าย ส่ง เดเล่ อัลลี่ นักเตะใหม่แทน เอริก ดายเออร์

         เหลืออีก 10 นาที อันโตนิโอ วาเลนเซีย ถูกส่งลงแทน ดาร์เมียน ในตำแหน่งแบ๊กขวา ก่อนที่ สเปอร์ส จะพยายามเจาะทางตรงนั้น นาทีที่ 85 เอริกเซ่น ได้ซัดมุมแคบ แต่ถูก โรเมโร่ ตะครุบไว้

         ท้ายเกม สเปอร์ส บี้หนัก แต่ โรเมเร่ โชว์หนึบ ป้องกันสองจังหวะติดๆ กันทั้งลูกโขกที่แฉลบหัว คริส สมอลลิ่ง รวมถึงลูกยิงของ เอริกเซ่น จบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด เฉือนชนะหวุดหวิด 1-0

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

 แมนฯ ยูไนเต็ด : เซร์คิโอ โรเมโร่, มัตเตโอ ดาร์เมียน, คริส สมอลลิ่ง, ดาเล่ย์ บลินด์, ลุค ชอว์, มอร์กกาน ชไนเดอร์ลิน, ไมเคิ่ล คาร์ริค (บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ น.59), ฆวน มาต้า, เมมฟิส เดปาย (อันเดร์ เอร์เรร่า น.67), แอชลี่ย์ ยัง, เวย์น รูนี่ย์

 สำรองไม่ได้ใช้ : ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ "ชิชาริโต้, แพ็ดดี้ แม็คแนร์, อันเดรียส เปไรร่า, แซม จอห์นสโตน

 ใบเหลือง : ชไวน์สไตเกอร์, มาต้า

 สเปอร์ส : มิเชล ฟอร์ม, ไคล์ วอล์คเกอร์, โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, แยน แฟร์ทองเก้น, เบน เดวิส, เอริก ดายเออร์ (เดเล่ อัลลี่ น.76), นาบิล เบนทาเล็บ (ไรอัน เมสัน น.52), นาเซอร์ ชาดลี่, คริสเตียน เอริกเซ่น, มุสซ่า เด็มเบเล่ (เอริก ลาเมล่า น.67), แฮร์รี่ เคน

 สำรองไม่ได้ใช้ : อูโก้ โยริส, คีแรน ทริปเพียร์, เควิน วิมเมอร์, ทอม แคร์โรลล์

 ใบเหลือง : แฟร์ทองเก้น, ดายเออร์