อาร์มี่ ยูไนเต็ด ได้ฤกษ์เปิดตัวอย่างเป็นทางการ โดย "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะประธานสโมสร เปลี่ยนฉายาให้ใหม่เป็น "สุภาพบุรุษวงจักร" เพื่อความเป็นมืออาชีพ วางเป้าหมายขอเพียง 2 ปี คว้าแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกให้ได้ ด้าน พล.ต.อดุลยเดช อินทะพงษ์ ผจก.ทีม มั่นใจสนามกีฬากองทัพบก พร้อมที่จะรับมือในการมาเยือนของทุกทีมแล้ว โดยจะประเดิมนัดแรกในวันที่ 27 ก.พ. นี้ กับ ศรีราช ซูซูกิ เอฟซี

 

         เมื่อเวลา 16.00 น. ของวันที่ 14 ก.พ. ณ กองบัญชาการกองทัพบก สโมสรอาร์มี่ ยูไนเต็ด ได้ทำการแถลงข่าวเปิดตัวอย่างเป็นทางการ เพื่อเตรียมพร้อมสู้ศึกไทยพรีเมียร์ลีก 2011 ท่ามกลางความสนใจของสื่อมวลชนทุกแขนง ภายในงานแถลงข่าวดังกล่าวมีผู้บริหารของทีม อย่าง "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะประธานสโมสร พร้อมด้วย "โค้ชก๊อก" พงษ์พันธ์ วงษ์สุวรรณ ประธานฝ่ายเทคนิค, พล.ต.อดุลยเดช อินทะพงษ์ ผจก.ทีม และตัวแทนของผู้สนับสนุนทีมอย่าง พล.อ.พัฑฒะนะ พุทานานนท์ กรรมการ ผจก.บ.เบียร์ทิพย์ บริวเวอรี่ (1997) จำกัด ในฐานะผู้แทนจาก บ.ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เจ้าของผลิตภัณฑ์ "ช้าง" สุภกิจ เจียรวนนท์ ผู้บริหารระดับสูงของเครือ "ซีพี" รวมทั้ง อลงกรณ์ ตุงคะบรรหาร ผอ.ฝ่ายขาย บ.เอเซอร์คอมพิวเตอร์ จำกัด และ วิเชียร ซิมอารีย์รัตน์ ผช.ผจก.บ.บางกอกแอธเลติก จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์ "แพน"

         และยังได้รับเกียรติจาก "บังยี" วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลฯ และ "บิ๊กเปี๊ยก" องอาจ ก่อสินค้า เลขาสมาคมฟุตบอลฯ ที่เดินทางมาร่วมงานแถลงข่าวครั้งนี้ในงานแถลงข่าวมีการเดินแฟชั่นเสื้อผ้า ที่ทางผลิตภัณฑ์ "แพน" เป็นผู้ออกแบบชุดแข่งในฤดูกาล 2011 ให้กับเหล่าบรรดานักเตะ ที่ออกมาเปิดตัวอย่างเป็นทางการ โดยชุดผู้เล่นเป็นเสื้อสีเขียว กางเกงดำ ถุงเท้าสีเขียว ขณะที่ชุดของผู้รักษาประตู เป็นสีกรมท่าทั้งหมด

         โดย "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประธานสโมสรอาร์มี่ ยูไนเต็ด กล่าวถึงความเป็นมาของทีมว่า สโมสรแห่งนี้เกิดมาพร้อมสมาคมฟุตบอลไทย แต่ยุคสมัยที่เปลี่ยนไปในระยะเวลา 95 ปี ทำให้เราต้องปรับทีมให้เป็นมืออาชีพ ซึ่งในตอนนี้เราเปลี่ยนมาใช้ชื่อทีมอาร์มี่ ยูไนเต็ด รวมทั้งฉายาที่จะใช้ "สุภาพบุรุษกงจักร" เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพอย่างเต็มตัว

        นอกจากนี้ "บิ๊กตู่" ได้เปิดเผยถึงความพร้อมของทีมว่า ตนมองเห็นในศักยภาพทีม ที่มีการดึงนักเตะต่างชาติและผู้เล่นคนไทยที่มีฝีเท้าดี เมื่อมารวมกับผู้เล่นเดิมที่ยังอยู่กับทีม น่าจะทำให้เรามีประสิทธิภาพเพียงพอในการต่อสู้กับสโมสรต่างๆ ซึ่งตนมองว่าอีก 2 ปี อาร์มี่ ยูไนเต็ด จะก้าวขึ้นมาเป็นแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก ได้อย่างแน่นอน

        ด้าน "โค้ชก๊อก" พงษ์พันธ์ วงษ์สุวรรณ ประธานฝ่ายเทคนิคอาร์มี่ ยูไนเต็ด พูดถึงเป้าหมายในอันดับตารางของทีมในซีซั่นนี้ว่า "ยอมรับตามตรงว่าเรามีการเปลี่ยนแปลงทีมค่อนข้างเยอะ ซึ่งในเรื่องของตัวนักเตะเอง เราได้ดึงผู้เล่นต่างชาติมาถึง 6 คน ไม่ว่าจะเป็น วินิเซียส คาร์วัญโญ่, เลอันโดร ดอส ซานโตส, โทนี่ พินโญ่, ราฟาเอล ซานตาน่า, อเลสซานโดร อัลเวส และ มาเดนกูเอ้ มูสซิน่า เอมมานูเอล ทำให้ทีมมีความแข็งแกร่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด"

        "ทำให้เราค่อนข้างที่จะมีความมั่นใจว่า ในฤดูกาลนี้เราพร้อมที่จะต่อสู้กับ 17 สโมสร เนื่องจากเราตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะต้องจบด้วยอันดับ 1 ใน 5 ของตารางให้ได้"

        ส่วน พล.ต.อดุลยเดช อินทะพงษ์ ผจก.ทีม "สุภาพบุรุษวงจักร" อาร์มี่ ยูไนเต็ด ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมของสนามกีฬากองทัพบก รังเหย้าของสโมสร ที่ได้ทำการปรับปรุงไปว่า "เราใช้งบประมาณในการปรับสนามไปมากพอสมควร โดยเราได้เน้นในเรื่องของพื้นสนาม, ความสว่างของไฟ, ที่นั่งของแฟนบอล และสิ่งที่จะอำนวยความสะดวกให้กับผู้สื่อข่าว ซึ่งคิดว่าสนามแห่งนี้พร้อมแล้วที่จะใช้งานในวันที่ 27 ก.พ. นี้ ที่เราจะต้อนรับทางศรีราชา ซูซูกิ เอฟซี และยังถือเป็นนัดแรกของทีมในไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลใหม่นี้"