เกมสปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีกคู่บิ๊กแมตช์ที่แพท สเตเดี้ยม สิงห์เจ้าท่า การท่าเรือไทย เอฟซี ก็ไม่สามารถต้านความแข็งแกร่งของแชมป์เก่ กิเลนผยอง เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ได้ เปิดบ้านพ่ายไป 2-0 ปิยพล บรรเท่า ฮีโร่ทีมเยือนเหมาคนเดียว 2 ลูกต้นครึ่งหลัง คริสเตียนบวกท้ายเกมอีกลูก เดอะก็อด ลงประเดิมสนามไทยลีกนัดแรกครึ่งชั่วโมง จบเกมเมืองทองขยับแซงหน้า ฉลามชล ขึ้นไปรั้งรองฝูงชั่วคราว

การแข่งขันแข่งขันฟุตบอลสปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2011 เลก 2 ประจำวันเสาร์ที่ 6 ส.ค. เป็นการโคจรมาพบกันอีกครั้งของคู่รักคู่แค้นอย่าง “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือไทย เอฟซี ทีมอันดับที่ 6 ของตารางมีอยู่ 26 คะแนน เปิดรังแพท สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของแชมป์เก่า “กิเลนผยอง” เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 3 ของตารางมีอยู่ 34 คะแนน โดยเลกแรกที่ผ่านมาเมืองทอง เปิดบ้านเอาชนะมาได้ 2-0 ซึ่งถ้าวันนี้แชมป์เก่าสามารถเก็บ 3 แต้มได้อีกจะขยับขึ้นไปรั้งรองจ่าฝูงชั่วคราวแทนที่ชลบุรี เอฟซี ทันที

สำหรับเกมในวันนี้ทั้ง 2 ทีมมีผู้เล่นติดโทษแบนฝั่งล่ะคน เจ้าถิ่นนั้นไม่มีมุนเซ่ อุลริช นายทวารตัวเก่ง ในขณะที่ทีมเยือนก็หมดสิทธิใช้งานจอมทัพอย่างดัสกร ทองเหลา เช่นกัน พร้อมกันนี้ทีมเยือนยังมีปัญหาในแนวรับที่ทั้งภานุพงศ์ วงศ์ษา และณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ ยังมีอาการบาดเจ็บไม่สามารถลงเล่นได้ทั้งคู่ แต่ถึงอย่างไรในเกมนี้ก็มีชื่อของร็อบบี้ ฟาวเลอร์ หัวหอกชื่อดังตัวใหม่ของทัพ “กิเลนผยอง” อยู่ในม้านั่งสำรองด้วย ในขณะที่แฟนบอลเจ้าถิ่นก็สามารถกลับเข้ามาชมเกมในแพท สเตเดี้ยม ได้อีกครั้ง หลังจากที่ถูกแบนไปหลายนัดก่อนหน้านี้ ทำให้บรรยากาศที่สนามแข่งขันนั้นคึกคักมากลเยทีเดียว

เกมครึ่งแรก

เริ่มเกมมาได้แค่ 2 นาทีก็เป็นทีมเยือนเมืองทอง ได้ทักทายก่อนจากการเปิดบอลจากกราบซ้ายของวีระวุฒิ กาเหย็ม เข้าไปในเขตโทษให้พิชิตพงษ์ เฉยฉิว ได้ขึ้นโขกคนเดี่ยวโล่งๆ ที่เสาสองแต่วัลลภ แซ่จิ๋ว นายทวารเจ้าถิ่นก็บินปัดด้วยปลายมือบอลข้ามคานออกไปอย่างหวุดหวิด หลังจากนั้นฝนก็เทลงมาอย่างหนักที่แพท สเตเดี้ยม แต่ก็เพียง 2-3 นาทีเท่านั้นก็หยุดนิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

น.8 ยังคงเป็นทีมเยือนที่ได้ลุ้นทำประตู พิชิตพงษ์ เฉยฉิว โยนฟรีคิกจากกลางสนามเข้าไปในเขตโทษ อานนท์ สังสระน้อย ได้โหม่งเสยกลับหลังบอลพุ่งตรงกรอบแต่ก็ไปตรงตัวของวัลลภ แซ่จิ๋ว ตามเคย ผ่านมาถึงนาทีที่ 17 ของการแข่งขันก็มีฝนตกลงมาอีกครั้ง ทำให้พื้นสนามค่อนข้างลื่นและทั้งสองทีมก็เสียบอลกันง่ายๆ หลายครั้ง

น.23 เป็นโอกาสของเจ้าถิ่นบ้างเอกภูมิ โพธารุ่งโรจน์ ลากบอลไปทางริมเส้นฝั่งขวาก่อนจะเปิดตบเข้ากลางมาให้คิม บาวี ที่ได้ส่องไกลหน้าเขตโทษ แต่บอลก็เหินข้ามคานออกไป น.24 ศิวกร จักขุประสาท ของท่าเรือลากบอลเข้าไปในเขตโทษก่อนจะโดนกองหลังเมืองทองฯ สกัดล้มลงไปแต่ผู้ตัดสินก็ไม่ได้เป่าให้เป็นจุดโทษแถมยังควักใบเหลืองให้ศิวกร ในข้อหาพุ่งล้มอีกด้วย ทำให้แฟนบอลเจ้าถิ่นไม่พอใจและตะโกนต่อว่าผู้ตัดสินกันระงม

ผ่านไปครึ่งชั่วโมงเกมเริ่มจะหนักขึ้นทั้งสองทีมนั้นอาศัยการตัดเกมหนักในแดนกลางทำให้เกมต้องหยุดอยู่บ่อยครั้ง น.38 ศิวกร จักขุประสาท กองกลางเจ้าถิ่นไปตัดฟาล์วใส่จักรพันธ์ พรใส ผู้ตัดสินชูใบเหลืองให้ศิวกร ซึ่งเป็นใบที่ 2 ทำให้เป็นใบแดงไล่ออกไป การท่าเรือเหลือผู้เล่นเพียงแค่ 10 คนตั้งแต่ครึ่งเวลาแรก

นาทีสุดท้ายของครึ่งแรกการท่าเรือเกือบได้ประตูขึ้นนำเมื่อสตีเฟ่น ร็อบบ์ ได้เปิดบอลจากกราบขวาไปที่เสาสองให้เอกภูมิ โพธารุ่งโรจน์ ได้พุ่งเข้ามาโหม่งเน้นๆ แต่บอลดันไปเข้าข้างหน้าต่าง ช่วงทดเวลาท่าเรือมีการเปลี่ยนตัวหนึ่งคนส่งวรวุฒิ วังสวัสดิ์ ลงไปแทนสตีเฟ่น ร็อบบ์ หลังจากนั้นก็ยังไม่สามารถทำอะไรกันได้ จบ 45 นาทีแรกยังคงเสมอกันอยู่ 0-0

ช่วงพักครึ่งสโมสรการท่าเรือไทย เอฟซี ได้มีการเปิดตัวประธานสโมสรคนใหม่นาวาอากาศตรีศิธา ทิวารี อดีตโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร เข้ามาดำรงตำแหน่งแทนที่พลตำรวจเอกปทีป ตันประเสริฐ ที่ขอลาออกจากตำแหน่งไปก่อนหน้านี้ ซึ่งประธานสโมสรคนใหม่ของ “สิงห์เจ้าท่า” ก็ได้รับเสียงปรบมือและการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากแฟนบอลถิ่นคลองเตยเป็นอย่างมาก

เกมครึ่งหลัง

กลับมาสู้กันต่อในครึ่งหลังซึ่งทั้งสองทีมยังไม่มีการปรับเปลี่ยนผู้เล่นเพิ่มเติม มาถึงใน น.52 ก็มีประตูแรกของการแข่งขันเมื่อปิยพล บรรเทา กองกลางของเมืองทอง เลี้ยงบอลตะลุยเข้าไปในเขตโทษก่อนจะยิงหนีมือผู้รักษาประตูเข้าไปง่ายๆ ให้ทีมเยือนบุกมานำ 1-0 หลังจากนั้นแชมป์เก่าก็เปลี่ยนตัวเป็นคนแรกถอดเอาอานนท์ สังสระน้อย ออกและส่งคริสเตียน เคาคู ลงไปเล่นแทน

ให้หลังจากนั้น 1 นาทีใน น.54 เมืองทองก็มาได้ประตูหนีห่างออกไปอีกเมื่อจักรพันธ์ พรใส ทำชิ่งหน้าเขตโทษกับพิชิตพงษ์ เฉยฉิว และจักรพันธ์ ได้หลุดเข้าไปยิงมุมแคบจังหวะแรกนั้นไปติดขาของวัลลภ แซ่จิ๋ว แต่บอลลอยโด่งไปเข้าศีรษะของปิยพล บรรเทา โหม่งจ่อๆ เข้าไปง่ายๆ เป็นประตูที่ 2 ของปิยพล และทำให้เมืองทองหนีไปเป็น 2-0 อย่างรวดเร็วในช่วงต้นครึ่งหลัง

และแล้วใน น.62 คาลิสโต้ กุนซือเมืองทอง ก็ส่งตัวร็อบบี้ ฟาวเลอร์ อดีตกองหน้าทีม “หงส์แดง” และทีมชาติอังกฤษ ลงสัมผัสเกมไทยพรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรก แทนที่ของจักรพันธ์ พรใส ซึ่งก่อนหน้านี้หัวหอกชื่อดังวัย 36 ปีได้ลงเล่นให้กับเมืองทองไปแล้ว 1 นัดในเกมลีกคัพรอบที่ผ่านมา และนัดนี้ถือเป็นการลงสนามนัดแรกในลีกสูงสุดของเมืองไทยอย่างเป็นทางการของร็อบบี้ ฟาวเลอร์ ในสีเสื้อของเมืองทอง ยูไนเต็ด

ช่วงที่ผ่านมาผู้เล่นของเมืองทองพยายามจะปั้นฟาวเลอร์ให้เบิกสกอร์แรกให้ได้แต่ไม่ว่าจะเป็นลูกเปิดของธีรศิลป์ แดงดา หรือคริสเตียน เคาคู ที่พยายามไหลใส่พานให้ “เดอะก็อด” หลายลูกแต่ก็ยังไม่เป็นผล ส่วนใหญ่บอลจะไปติดแผงกองหลังและผู้รักษาประตูเจ้าถิ่นมากว่า

น.72 “สิงห์เจ้าท่า” พลาดได้ประตูตีไข่แตกอย่างน่าเสียดายเมื่อวรวุฒิ วังสวัสดิ์ ได้ปั่นฟรีคิกริมกรอบโทษฝั่งซ้ายบอลพุ่งเกือบเสียบเสาแรกแต่กวิน ก็บินมาปัดเอาไว้ได้จังหวะแรก และเป็นกองหลังเมืองทองที่เตะบอลทิ้งออกไปได้ เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้ายแฟนบอลเจ้าถิ่นเริ่มแสดงความไม่พอใจอะไรบางอย่างออกมาด้วยการขว้างปาขวดน้ำลงมาในสนาม แต่สุดท้ายทางเจ้าหน้าก็สามารถควบคุมเหตุการณ์เอาไว้ได้และไม่มีอะไรบานปราย

น.86 ฟาวเลอร์ มีโอกาสได้หลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษแต่จังหวะจะล็อกหลบกองหลังท่าเรือก็ไปโดนวรวุฒิ วังสวัสดิ์ ตัดบอลไปได้เสียก่อน ท่ามกลางความเสียดายของแฟนอลทีมเยือนที่อยากเห็นประตูแรกของศูนย์หน้าตัวใหม่รายนี้ มาถึงนาทีสุดท้ายของเกมแชมป์เก่าก็มาได้ประตูปิดท้ายจากคริสเตียน เคาคู ที่ได้บอลหน้าเขตโทษและยิงเล่นทางเข้าไป จบเกมเมืองทองบุกมาย้ำชัยการท่าเรือ ได้อีกนัด 3-0

และจากชัยชนะในเกมนี้ของทีมเมืองทองฯ ยูไนเต็ด ทำให้เก็บเพิ่มได้อีก 3 คะแนนเป็น 37 คะแนน ขยับขึ้นมารั้งรองจ่าฝูงชั่วคราวแทนที่ “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี ที่มีอยู่ 35 คะแนน ซึ่งมีโปรแกรมที่จะลงสนามในวะนพรุ่งนี้ (7 ส.ค.) ด้วยการบุกไปเยือน “ฮัลโหล” ทีโอที เอสซี

สำหรับรายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

การท่าเรือไทย เอฟซี : วัลลภ แซ่จิ๋ว (GK),ทศพล ลาเทศ,มงคล นามนวด,เอกภูมิ โพธารุ่งโรจน์,จาค็อบ บาเร่,สตีเฟ่น ร็อบบ์,ศิวกร จักขุประสาท,คิม บาวี,มาริโอ ดา ซิลวา,เกียรติเจริญ เรืองปาน และ อิทธิพล นนท์ศิริ (C)

เมืองทองฯ ยูไนเต็ด : กวิน ธรรมสัจจานันท์(GK),เซส เลห์มาน,ธีรศิลป์ แดงดา,ดิอาร่า อาลี,จักรพันธ์ พรใส,อานนท์ สังสระน้อย,พิชิตพงษ์ เฉยฉิว,ปิยพล บรรเทา,ไพทูรย์ เทียบมา และ วีระวุฒิ กาเหย็ม

ยอดคนดู 5,010 คน

ยอดค่าบัตรผ่านประตู 291,790 บาท

ยอดขายของที่ระลึก 70,390 บาท