ซุปเปอร์บิ๊กแมตช์สุดสัปดาห์นี้ นอกจากจะเป็นศึกใหญ่ของทีมใหญ่ที่ควรจับตามองฝีเท้า และผลงานของนักเตะแล้ว 'เดอะตุ๊ก' แนะว่า อย่าลืมเหลือบไปดูสีหน้าของผู้ใหญ่ทั้งสองทีมด้วย

ผมอดใจรอ แทบไม่ไหวจริงๆ... พยายาม นั่งเร่งคืนเร่งวัน ว่าเมื่อไหร่จะถึงวันเสาร์ที่ 18 ส.ค.สักที จริงๆแล้ว มันไม่ใช่วันสลักสำคัญอะไรในชีวิตของผมหรอกครับ เพียงแต่ในวันนั้นจะมีเกม “อภิมหาซุปเปอร์บิ๊กแมทช์” ระหว่าง “คู่รักคู่แค้น”  คู่ใหม่ แห่งวงการลูกหนังไทย นั่นก็คือ “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง พบกับทีม“ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

พูดตรงๆ การพบกันของสองทีมนี้ช่างน่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง แม้ว่าผลคะแนนของทั้งสองทีมจะห่างไกลกันสุดกู่ถึง 17 แต้ม จนแทบจะไม่มีผลต่อเส้นทางการ “ลุ้นแชมป์” ของทีมเมืองทองฯ แต่ถ้ามองกันในแง่ของ “ศักดิ์ศรี” สองทีมนี้ ไม่มีใครยอมใครอย่างแน่นอน

“ปราสาทสายฟ้า” มีดีกรีเป็นถึง “แชมป์เก่า” ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก แต่ทว่าปีนี้ผลงานไม่ “เปรี้ยงปร้าง” เหมือนเก่า ปัจจุบันรั้งอยู่อันดับ 3 ของตารางคะแนน ผิดกับ เมืองทองฯ “ว่าที่แชมป์” ในฤดูกาลนี้ ที่ทำคะแนนทิ้งห่าง “นำโด่ง” ทั้ง ชลบุรี และ บุรีรัมย์ฯ ไปไกลแบบไม่เห็นฝุ่น

แม้สถานการณ์จะไม่เป็นใจให้ทีม บุรีรัมย์ฯ แถมต้องเดินทางมาเยือนถิ่นของเมืองทองฯ แต่ผมเชื่อว่า  บรรดานักเตะจากดินแดนอีสานใต้จะเล่นแบบยอมพลีกายถวายชีวิตเพื่อเอาชนะทีมเมืองทองฯ ให้ได้ เนื่องจากพวกเขาต้องการพิสูจน์ตัวเองว่า ยังดีพอที่จะเล่นให้กับทีมระดับ บุรีรัมย์ฯ

นอกจากการพบกันในสนามที่คาดว่าจะ “ดุเดือดเลือดพล่าน” แล้ว เรื่องนอกสนามก็ยังเป็นที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นการโคจรมาพบกับของ สองผู้ยิ่งใหญ่ในวงการ

ขณะที่ เมืองทองฯ ไม่ต้องพูดถึง การเล่นในบ้านต่อหน้าแฟนบอลของตัวเอง รับรองว่าบรรดานักเตะ “สู้ตาย” คาสนามอย่างแน่นอน อีกทั้งผลงานในสนาม เอสซีจี สเตเดี้ยม ของ เมืองทองฯ น่ากลัวจริงๆ ไม่ว่าทีมใดมาเยือนโอกาสที่จะได้คะแนนกลับไปนั้นมีน้อยเหลือเกิน

นอกจากการพบกันในสนามที่คาดว่าจะ “ดุเดือดเลือดพล่าน” แล้ว เรื่องนอกสนามก็ยังเป็นที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นการโคจรมาพบกับของ สองผู้ยิ่งใหญ่ในวงการ... ทางฝั่งเจ้าบ้านก็เป็นผู้ยิ่งใหญ่ในวงการกีฬา ขณะที่ฝั่งผู้มาเยือนเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในวงการเมือง ซึ่งนาทีนี้ทั้งสองคนต่างมี “จุดยืน” และ “ความคิดเห็น” ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน

แฟนบอลที่ติดตามฟุตบอลไทยมานานคงจะทราบนะครับว่า ทีมผู้บริหารเมืองทองฯ สนับสนุนสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ แต่ทีมผู้บริหาร บุรีรัมย์ฯ ซึ่ง นำโดย คุณเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร กลับเลือกเส้นทางที่จะเดิน “ตรงข้าม” สมาคมฟุตบอลฯ แถมเมื่อไม่นานมานี้เกิดกรณีคุณเนวิน ไปทวงถามตามหาเงิน “ค่าลิขสิทธิ์” จากการจัดแข่งขันฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก จากสมาคมฟุตบอลฯ ซึ่งมันไปเกี่ยวโยงผูกพันกับ บริษัท สยามสปอร์ตฯ ที่ได้รับสัมปทานตรงนี้จากสมาคมฯ จนกลายเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต “ตอบโต้” กันไปมา จนกลายเป็น “สงครามเย็น” ระหว่างสามฝ่ายนี้

บริษัท สยามสปอร์ตฯ ก็คือเจ้าของทีมเมืองทองฯ ดังนั้นงานนี้มีหวัง “เดือด” ทั้งใน และนอกสนามอย่างแน่นอน

เกมนี้นอกจากจะต้องจับตาดู ธีรศิลป์ แดงดา, ดัสกร ทองเหลา, มาริโอ้ ยูรอฟสกี้, ภานุพงษ์ วงษา, กวิน ธรรมสัจจานันท์, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว ปะทะชั้นเชิงของ “ฝีเท้า” กับ แฟรงค์ อาชีมปง, ธีราทร บุญมาทัน, สุเชาว์ นุชนุ่ม, จักรพันธุ์ แก้วพรม, สุรัตน์ สุขะ,อภิเชษฐ์ พุฒตาล, จิรวัฒน์ มัครมย์ แล้ว
ผมแนะให้จับตาดูอากัปกิริยาของ คุณเนวิน และบอร์ดบริหารทีมเมืองทองฯ...ดูซิว่าบรรดา “บิ๊กๆ” จะวางตัวและตีสีหน้ากันอย่างไร

แค่คิดก็มันส์แล้ว... ดังนั้น ศึกครั้งนี้ห้ามพลาดเด็ดขาดครับ